กรณีที่บุพพากรีบังคับให้จดทะเบียนทั้ง ๆ ที่เราไม่ทราบเรื่องเลย มีเหตุอยู่ว่าประมาณวันที่ 7 มีนาคม 2550 แม่ของดิฉันได้บอกกับดิฉันว่าจะให้ฉันแต่งงานกับคนที่เขาชอบ เพราะเขาเป็นคนมีเงินนะคะ แต่ดิฉันมีแฟนอยู่แล้วนะ ฉันรักแฟนของฉันมาก และเขาบังคับว่าถ้าไม่จดทะเบียน แม่จะฆ่าตัวตาย กินยาตาย หรือแม้แต่ตัดแม่ตัดลูกกันเลย แต่โดยความเป็นจริงดิฉันพยายามจะอธิบายแล้วว่าฉันมีแฟนแล้ว และรักเขามาก และทุก ๆ ครั้งที่เจอหน้าผู้ชายที่จดทะเบียนสมรสด้วยก็จะหาเรื่องทะเลาะกับเขาตลอดเวลา ตอนนี้ฉันอายุ 20 ปีแล้วนะคะ ดิฉันสามารถที่จะหาข้อใด ๆ ร้องหย่าได้หรือเปล่าคะ เพราะตอนนี้ไม่ไหวจริง ๆ คะ พยายามบอกทั้งแม่ทั้งผู้ชายคนนั้นแล้วว่าไม่ได้รักกันการที่บุพพการีบังคับแบบนี้เราพอจะทำอย่างไรบ้างคะ บ่างที่ฉันนึกอย่างจะฆ่าตัวตายเหมือนกัน แต่เพราะว่าต้องรอคนที่ฉันรักฉันจึงต้องพยายามต่อสู้ อ้อแล้วถ้าเกิดการแต่งงานจบด้วยการหย่าฉันต้องเสียตังค์ให้เขาหรือเปล่าคะ เพราะแม่ฉันบอกว่าถ้าอยากหย่าก็ให้เอาเงินมาวาง 500,000 บาท เป็นค่าปรับแล้วจะไปอยู่ด้วยกันที่ไหนก็ไป แม่ยังบอกอีกว่าถ้าเกิดทำให้มีปัญหาเขาจะเอาหน้าที่การงานของแฟนคนที่ฉันรักนะ ไปทำให้เสียชื่อเสียง ( แฟนทำงานเป็นพนักงานรัฐ ) อย่างนี้จะมีผลกระทบต่อเขาเปล่าคะ ในเมื่อเขาก็เสียใจและทนนนิ่งอยู่ไม่ไปทวงสิทธิ์แล้วนะคะ อยากให้ช่วยไขข้อกังขาหน่อยได้มั๊ยคะว่าต้องทำอย่างไร ถ้าเป็นอย่างนี้ฉันคงไม่พ้นจะต้องตายแน่นอนเลยคะ เพราะแม่ดิฉันไม่สนใจฉันเลย ฉันร้องไห้ทุกวัน ทุกอย่างเกิดขึ้นมา แค่อาทิตย์เดียวเอง ดิฉันพอมีหนทางจะทำให้ศาลเมตตาให้ถอนใบจดทะเบียนได้หรือเปล่าคะ ขอหนทางหน่อยคะลูกกตัญญูแต่ทนอยู่ไม่ได้
คงต้องใช้ความเย็นเข้าค่อย ๆ พูดกับฝ่ายชายให้เขาเห็นใจเพื่อจะได้ไปจดทะเบียนหย่ากันโดยดี การหย่ากันนั้นถ้าตกลงกันได้ก็ไม่มีอะไรต้องเสียให้กันและกัน ส่วนการที่จะไปฟ้องศาลเพื่อหย่าหรือเพื่อให้ถอนทะเบียนสมรสนั้น คงทำไม่ได้ เพราะไม่มีเหตุ เนื่องจากคุณอายุบรรลุนิติภาวะ สามารถตัดสินใจเองได้แล้ว การที่ตัดสินใจแต่งงานเพื่อแสดงความกตัญญูกับมารดาก็เป็นการตัดสินใจของคุณเอง เพราะถ้าคุณไม่แต่งจริง ๆ ก็ไม่มีใครทำอะไรคุณได้