ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    020849 ขอความกรุณาขอคำแนะนำเรื่องหย่าครับวิรัช5 มีนาคม 2550

    คำถาม
    ขอความกรุณาขอคำแนะนำเรื่องหย่าครับ

    ขอรบกวนปรึกษาปัญหาครับ


    ผมได้รู้จักกับนักศึกษาเพิ่งเรียนจบคนหนึ่ง และก็มีความสัมพันธ์กระทั่งเธอท้อง ผมจึงรับผิดชอบทำการสมรสโดยมีการจดทะเบียนสมรสกัน และผมก็ให้ออกจากงาน เพื่อพักผ่อนอยู๋บ้านเนื่องจากเห็นว่ามีครรภ์แล้ว ผมดูแลเธออย่างดีโดยโอนงินให้เธอใช้จ่ายทุกเดือน เดือนละ 30,000บาท และมีแม่บ้าน พี่เลี้ยง คอยดูแลให้สมบูรณ์ จนปัจจุบันลูกคนแรกออกมาแล้ว และ กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 อยู่ แต่ว่าตั้งแต่หลังแต่งงานมาแล้ว เด็กคนนี้ฟุ่มเฟือยมาก และเรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังเกียจคร้านมาก ไม่ดูแลลูก และหาเรื่องทะเลาะกับผมอยู่ตลอดโดยอ้างว่ายังไม่ซื้อรถให้ หรือให้เงินเดือนเพิ่มขึ้นตามที่เธอต้องการใช้จ่าย โดยแม่ของเธอก็มาร่วมต่อว่าเรื่องเงินที่เธอต้องการพวกนี้ เมื่อเธอไม่ได้ดังใจก็อ้างว่าอยู๋ไม่ได้ และจะหอบเอาลูกกลับไปอยู่บ้านแม่  ผมจึงเริ่มหมดความอดทนกับความเห็นแก่ได้ของเธอและแม่ของเธอ ผมจึงกำลังคิดถึงการหย่า อยากจะขอเรียนปรึกษาว่า  ถ้าผมต้องการลูก ทั้งที่คลอดมาแล้ว และที่ยังอยู่ในครรภ์ หากสามารถหย่าได้

    1.ผมควรจะต้องเตรียมหลักฐาน อะไรบ้างเพื่อแสดงว่าเธอจะไม่สามารถอุปการะบุตรได้ เนื่องจากผมเป็นคนรับผิดชอบครอบครัวทั้งหมดมาตลอด โดยเธอไม่ได้ทำงาน และยังใช้เงินผมอยู่ โดยผมมีทำประกันชีวิต+สุขภาพให้ลูกและเธอ และมีเงินฝากประจำที่เป็นชื่อลูก ถือว่าเป็นหลักฐานที่ดีหรือไม่

    2 ผมมีหลักฐานบันทึกเสียงที่เธอกล่าวดูถูก เหยียดหยามผม และทะเลาะกัน เหล่านี้สามารถเป็นผลอะไรได้บ้าง 


    3. ผมต้องระวังในเรื่องใดบ้างเพราะทางบ้านเธอก็มีญาติที่รู้กฎหมายเหมือนกัน เพื่อไม่ให้ตัวเองหลงกลไปเสียเปรียบ


    4.ผมพร้อมที่จะต้องจ่ายค่าเลี้ยงชีพให้เธอ แต่อยากทราบถึงการคำนวนว่าใช้หลักอย่างไร เพราะกลัวการเรียกร้องที่ไม่สมเหตุผล


    5.โอกาสที่ผมจะเสียสิทธิการจะได้ลูกคืนมา จะเกิดจากเหตุใดได้บ้าง

    6 เธอต้องการจะแยกกลับไปอยู่บ้านแม่ที่ต่างจังหวัด โดยจะเอาลูกไปด้วย ผมจึงขอให้ทำหนังสือตกลงกัน โดยระบุไว้ว่าผมไม่ยินยอมด้วย และระบุวันที่สิ้นสุดการแยกกันอยู่เพื่อจะไปหย่ากันหากเธอไม่ต้องการกลับมา โดยผมยังยอมจ่ายค่าดูแลบุตร และค่าเลี้ยงดูให้เธอ รวมทั้งค่าคลอดบุตรอีกคน ระหว่างที่แยกกันนี้  จะแสดงว่าเป็นการแยกกันอยู่โดยผมไม่สมัครใจหรือไม่ และ หากครบกำหนดเวลาตามสัญญา (ประมาณ 6 เดือน) และเธอไม่กลับมาอีกแล้ว ผมสามารถฟ้องหย่าได้ตามข้อตกลงเลยหรือไม่ครับ

    7 กรณีใดที่จะเข้าข่ายว่าเป็นการแยกกันอยู่โดยไม่ยินยอมครับ เพราะผมไม่ต้องการให้เรื่องเนิ่นนาน จน 3 ปี

    8 ระหว่างแยกกันอยู่ผมตั้งใจจะไปเยี่ยนลูกทุกเดือน โดยไม่เกรงว่าจะเจออะไรที่ทางนั้นจะปฏิบัติมา จะเป็นผลเสียอะไรหรือไม่ครับ 

    ขอความกรุณาด้วยครับ

    วิรัช

    คำตอบ

    1. ในเมื่อคุณเป็นฝ่ายมีรายได้ที่สามารถอุปการะเลี้ยงดูบุตรได้ โอกาสที่คุณจะได้ลูกมาก็มีอยู่ เว้นแต่ฝ่ายหญิงมีเหตุผลว่าการที่ลูกอยู่กับคุณแล้วจะเสียหายกับเด็ก  ว่าแต่ว่าก่อนจะคิดถึงหลักฐานในการได้ลูกมาอยู่ด้วยน่ะ ลองคิดถึงเหตุแห่งการหย่าว่ามีอะไรพอที่จะใช้เป็นข้ออ้างในการหย่าบ้างหรือยัง

    2. ถ้าไม่ถึงขนาดก็อาจใช้เป็นหลักฐานลำพังไม่ได้

    3. อย่าเพิ่งไปมีผู้หญิงใหม่ก็แล้วกัน

    4. ถ้ามีการฟ้องหย่ากันจริง ศาลจะกำหนดให้ตามสมควรแก่ฐานะของทั้งสองฝ่าย

    5. เหตุสำคัญก็คือเขาสามารถพิสูจน์ได้ว่าถ้าเด็กอยู่กับคุณแล้วจะเสียหายแก่เด็ก

    6. การจงใจละทิ้งไปต้องมีระยะเวลาถึง ๑ ปี

    7. เหตุแห่งการหย่าที่เนื่องจากแยกกันอยู่นั้น ต้องเป็นเรื่องสมัครของทั้งสองฝ่ายเป็นเวลา ๓ ปี

    8. ไม่น่าจะมีอะไร


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    5 มีนาคม 2550