เรียน ท่านมีชียฯ ที่เคารพเป็นอย่างสูง
ดิฉันขอเรียนถามปัญหาดังนี้ค่ะ ดิฉันเพิ่มจดทะเบียนสมรสกับสามีได้ 2 เดือนกว่า ต่อมาได้ให้สามียืมเงินส่วนตัวของดิฉัน (ดิฉันมีมาก่อนที่จะจดทะเบียนสมรสกัน ซึ่งเป็นเงินส่วนตัวของดิฉัน) ไปชำระหนี้ส่วนตัวของสามีที่มีมาก่อนจดทะเบียนกับดิฉัน โดยดิฉันได้ให้สามีเขียนสัญญาเงินกู้ไว้ 1 ฉบับ ขอเรียนถามดังนี้ค่ะ...1. ดิฉันเป็นเจ้าหนี้ (ตามกฎหมายของสามี) ใช่มั๊ยค่ะ 2.ดิฉันสามารถฟ้องร้อง (ตามกฎหมาย) สามีในตอนนี้ขณะที่จดทะเบียนอยู่กับดิฉันเพื่อให้สามีชำระหนี้ตามสัญญาได้มั๊ยค่ะในฐานะลูกหนี้ได้มั๊ยค่ะ (ซึ่งหนี้สินอันนี้สามีกับภรรยาเก่าของเขาร่วมกันสร้างมา แล้วต่อมาหย่าร้างกันค่ะ ซึ่งขณะนี้ภรรยาเก่าของเขาฟ้องสามีหนูเรื่องขอแบ่งสินสมรสและสินส่วนตัวต่อศาลเยาวชนและครอบครัวแล้ว และศาลฯ ได้ตัดสินให้ทั้งสอง (ร่วม) กันชำระหนี้ที่มีด้วยกันคนละครึ่ง และให้แบ่งทรัพย์สินที่เป็นสินสมรสกันคนละครึ่งเช่นกัน หากแบ่งกันเช่นว่าไม่ได้ให้ประมูลขายระหว่างกันค่ะ แต่เผอิญว่าทั้งสองคือสามีและภรรยาเก่าของเขามีหนี้สินร่วมกันมากกว่าทรัพย์สินที่เขามีอยู่ ทำให้ยืขายทรัพย์สินได้ไม่พอชำระหนี้สิน ซึ่งคำว่าหนี้สินนั้น รวมถึงหนี้ที่สามีได้ยืมไปจากดิฉันในข้างต้นด้วย ซึ่งดิฉันยังไม่ได้รับชำระเลยในตอนนี้ พอดิฉันทวงถามสามีก็บอกว่าจะยกที่ดินให้กับดิฉันกับลูกๆ ที่เราอยู่ด้วยกันในปัจจุบันนี้ และขณะนี้ที่ดิฉันแปลงนี้ก็ติดจำนองกับธนาคารฯ อยู่เช่นกัน และพอทวงจากฝ่ายภรรยาเก่าของเขาบ้าง (ดิฉันทวงตามคำพิพากษาศาลฯ ที่พิพากษาให้ทั้งสองร่วมกันชำระหนี้ค่ะ ภรรยาเก่าของเขาก็ทำเฉยบอกว่าอยากให้ยืมเงินเอง ...ช่วยไม่ได้...ไม่ให้ ซึ่งภรรยาเก่าของสามีพยายามที่จะเบี้ยวหนี้อยู่ตลอด ดิฉันไม่รู้จะทำอย่างไร ขอท่านฯ มีชัยช่วยแนะนำดิฉันด้วยค่ะ 4.ต่อมาภรรยาเก่าของสามีมีปัญหาฟ้องร้องในเรื่องอื่นๆ อีก (ไม่เกี่ยวกับหนู) คือภรรยาเก่าของสามี (ขณะนั้นหย่ากันไปแล้ว 1 ปี กว่า ก่อนที่จะมาจดทะเบียนแต่งงานกับดิฉัน ตอนที่เกิดเรื่องนั้นดิฉันยังไม่เคยรู้จักสามีค่ะ) เรื่องมีอยู่ว่าสามีไปเยี่ยมลูกของเขาที่บ้านภรรยาเก่า แล้วจอดรถยนต์ไว้หน้าบ้าน โดยเสียบกุญแจไว้และลงกระจกรถไว้ ภรรยาเก่ามาเห็นก็สตาร์ทรถหายไป สามีคิดว่าภรรยาเอารถไปธุระ ก็รออยู่ประมาณ 3-4 วัน เห็นภรรยาเก่ายังไม่นำรถมาให้ก็ตัดสินใจชวนหลานของภรรยาและบอกพ่อแม่ของภรรยาว่าจะไปแจ้งความที่โรงพัก สามีก็ได้แจ้งความภรรยา (ที่หย่ากันแล้ว) ในข้อหาลักทรัพย์ อยู่มาถึงประมาณ 14 วัน ภรรยาเก่าก็นำรถมาคืนโดยนำมาทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมัน แล้วโทรศัพท์ให้หลานของภรรยาเก่ามาบอกให้สามีไปเอารถมา ซึ่งได้ฝากกุญแจไว้ที่บ้านคนรู้จักกัน สามีก็ไปเอารถยนต์คันดังกล่าวแล้วนำไปให้ตำรวจไว้เป็นของกลางต่อไป ภรรยาเก่าของสามีก็ถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ ปรากฎว่าศาลยกฟ้องโดยให้เหตุผลว่า ภรรยาเก่าไม่มีเจตนาที่จะลักทรัพย์เพียงเห็นว่าเป็นทรัพย์ที่เคยใช้ด้วยกันจึงเอาไปใช้บ้างเท่านั้นเอง สามีก็ไม่ติดใจในคดี เรื่องก็จบกันไป ต่อมาฝ่ายภรรยาเก่าของสามีไม่ยอมลดราวาศอกได้ฟ้องกลับสามีอีกครั้งในข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานสอบสวนในคดีลักทรัพย์เนี่ยล่ะค่ะ และทางภรรยาเก่าได้ติดต่อมาที่สามี (โทร.มา ,มาหาดิฉันที่ทำงาน, เขียนหนังสือขู่ , มาหาที่บ้านพร้อมกับสามีใหม่ของเขา ฯลฯ) ว่าต้องการเงิน 100,000.-บาท แล้วจะถอนเรื่องให้ ซึ่ง ณ ขณะนั้นดิฉันจดทะเบียนอยู่กับสามีแล้ว (ดิฉันจึงไปแจ้งความและลงบันทึกไว้ที่โรงพักด้วย) ดิฉันกับสามีคดไปคิดมาว่า เราไม่ผิดและเราไม่มีเงินที่จะให้เขา จึงได้ปล่อยเรื่องไปจนกระทั่งขึ้นศาล สามีของดิฉันต่อสู้คดีไม่เป็น ไม่ได้มีทนายและไม่ได้เบิกความเป็นจริงเลย ศาลจึงตัดสินจำคุก 6 เดือน แต่ให้รอลงอาญาพร้อมเสียค่าปรับ และในขณะเดียวกันนั้นสามีได้ทำหนังสือประนีประนอมยอมความกันว่าต้องการเงินจำนวนหนึ่ง และจะยุติคดีทุกเรื่องระหว่างกัน ดิฉันจึงเสียแต่เพียงค่าปรับและประกันตัวสามีออกมาค่ะ 3. ดิฉันขอถามท่านฯ ว่า คดีนี้ (เรื่องแจ้งความเท็จที่ฟ้องสามีดิฉัน) ตอนนี้เรื่องจบแล้ว สามีดิฉันยังสามารถที่จะดำเนินการใดๆ ได้อีกหรือไม่ คือสามีไม่มีความในการต่อสู้คดีเลย และหากทำได้ทำอย่างไร (จะเอาคนผิดมาลงโทษ) และต่อมาหลังจากทีภรรยาเก่าของสามีทราบว่าดิฉันได้ฟ้องสามีในฐานะลูกหนี้ตามสัญญาเงินกู้เพื่อขอรับชำระหนี้ที่เคยให้สามียืมไปชำระหนี้ของเขาทั้งสองนั้น ภรรยาเก่าของสามีก็ฟ้องดิฉันกับสามีให้ข้อหาโกงเจ้าหนี้ค่ะ ศาลสั่งมีมูลแต่ไม่ทันถึงวันนัดฝ่ายภรรยาเก่าของสามีก็ตกลงกับสามีได้ (ดังกล่าวข้างต้น) คือทำสัญญายอมดังกล่าวข้างต้น และให้ทั้งสองไปถอนคดีกันทุกคดีเป็นอันจบสิ้น และขณะนี้สามีไม่ทรักย์สินอะไรอีกเลยที่จะทำตามสัญญายอม สามีจึงผิดสัญญา เพราะที่ดินก็ติดจำนองธนาคารฯอยู่ ไม่สามารถจะไปเอาเงินพิ่มขึ้นอีกได้ ภรรยาเก่าของสามีจึงบังคับคดีที่แปลงนั้นอยู่ค่ะ และดิฉันก็ขอเข้าไปกันส่วนตามสิทธิ์ที่ดินฉันได้ในเงินสามีไปไถ่ถอน (ยืม) คดีอยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ค่ะ ท่านฯ มีชัยพอจะบอกดิฉันได้มั๊ยค่ะว่า ดิฉันจะได้เงินที่ให้ยืมไปกลับคืนมาหรือไม่ หรือจะได้เป็นที่ดินที่ดิฉันขอกันส่วน เพราะเป็นเงินจำนวน 3 แสนกว่าบาท แต่ดิฉันได้ฟ้องสามีและให้สามีเขียนสัญญาไปเพียง 1 แสนห้าหมื่นบาท ส่วนอีก 1 แสน ห้าหมื่นบาทนั้น ดิฉันให้สามีเขียนยินยอมยกที่ดินแปลงที่ไปไถ่ถอน (ดิฉันอยู่ปัจจุบันนี้) ให้ดิฉันครึ่งหนึ่งค่ะแทนการชำระหนี้ด้วยเงินค่ะ ดิฉันจะได้อะไรกลับมาบ้างค่ะ ขอท่านฯ ช่วยตอบด้วย ภรรยาเก่าของสามีเนี่ยตัวร้าย ทำหนี้สินไว้ไม่ปัญญาปลดแล้วหาทางออกโดยการหย่า พอสามีแต่งงานใหม่กับดิฉันพอจะมีฐานะขึ้นมาบ้าง (ได้ไถ่ที่ดิน, ได้สร้างบ้าน, สร้างรถ, มีลูกด้วยกัน ฯลฯ) ก็อิจฉา เที่ยวตะลอนหาเรื่องฟ้องแบ่งโน้นแบ่งหนี้ไปหมด ในตอนที่มีหนี้สินโน้นหายจ๋อย...ไปมีสามีใหม่ (ของคนอื่น) ลูกของตัวเองก็ไม่เลี้ยง ดิฉันยังต้องเอามาเลี้ยงให้เลยค่ะ ให้ไปเรียนหนังสือกับลูกของดิฉัน จ่ายค่าเทอมให้ แล้วแหม....ทำแสบอีกไปขอเบิกเงินค่าเทอมที่ดิฉันจ่ายค่าเทอมให้ลูกของเค้าน่ะเอาไปเสีย บอกว่าเค้าเป็นคนฝากเงินมาเสียค่าเทอมให้ลูกของเขาเองค่ะ เขาจำเป็นต้องเอาเงินไปใช้รักษาพ่อแม่ของเจาก่อน อีก 2-3 วันจะเอามาชำระใหม่ เนี่ยแหละค่ะ ประวัติของเขา ดิฉันน่ะไม่อยากคิดเลยว่าซวย...อย่างไรถึงมาเจอกับคนพรรดิ์นี้ได้ เอาล่ะแต่ตอนนี้ดิฉันดีขึ้นมาก ทั้งหน้าที่ การงาน ฐานะความเป็นอยู่ แต่ที่รู้ๆ ตอนนี้ภรรยาเก่าของสามีลำบากมาก และขณะนี้ดิฉันต้องการเงินที่ศาลฯ พิพากษาให้ทั้งสองชำระหนี้ร่วมกันให้ดิฉันค่ะ ดิฉันต้องทำอย่างไรค่ะ ในเมื่อเขาทั้งสองไม่มีทรัพย์อะไรอีกแล้ว ขอท่านมีชัยฯ กรุณาแนะนำดิฉันด้วย ดิฉันจักขอโทษท่านฯ เป็นอย่างยิ่งที่เล่าความ / ถามความเสียยาวอย่างนี้ ดิฉันเครียดมากค่ะ ไม่ทราบว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อนย่างไร เงินหายไปตั้งเป็น 2-3 แสนค่ะ แล้วแถมยังเป็นคดีโดยไม่มีสาเหตุอีกด้วย ดิฉันขอจบเพียงเท่านี้ค่ะจักขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ขอบคุณค่ะ
เรียน คุณศรีสุดารัตน์
เรื่องสลับซับซ้อนราวกับเรื่องรามเกียรติ การแนะนำอะไรไปอาจจะไม่ถูกต้องตรงตามที่เป็นจริงได้ ดังนั้นควรปรึกษากับทนายความจะเหมาะสมกว่า การเป็นคดีในศาลนั้นถ้าไม่คิดอ่านพึงพาทนายความ ก็จะเป็นอย่างที่สามีคุณโดนมาแล้ว ทั้ง ๆ ที่เรื่องไม่สมควรจะต้องมีความผิดเลย