เรียน ท่านมีชัย ที่เครารพเป็นอย่างสูง
ดิฉันขอเรียนถามท่านฯ ดังนี้ค่ะ สามีได้รับโอนที่ดินมาจากบิดามา 1 แปลง (บิดาให้) และที่ดินเป็นชื่อของสามีค่ะ ต่อมาสามีและภรรยาคนเก่านำที่ดินแปลงนี้ไปจำนองกับธนาคารฯไว้ ต่อมาทั้งสองหย่ากัน ปัจจุบันหนี้จำนองของธนาคารฯ ก็ยังอยู่ (ทั้งสองไม่ได้ไถ่จำนอง) พอทั้งสองหย่ากันได้ประมาณ 2 ปีกว่าๆ สามีก็มาแต่งงานจดทะเบียนกับดิฉัน (ซึ่งก่อนแต่งงานดิฉันมิได้ทราบเลยว่าสามีมีหนี้สินกับธนาคารฯ ) แต่งได้ 2 เดือนมีหนังสือทวงให้สามีนำเงินไปชำระหนี้ที่กู้ไว้เมื่อครั้งก่อนโน้นค่ะ (ก็คือที่ดินที่ดิฉันอยู่ในปัจจุบันนี้ค่ะ) ดิฉันจึงวิ่งเต้นไปกู้เงินคนอื่นมาก่อน เพื่อไม่ให้ธนาคารฯ ยึดที่ดินไป แต่ก่อนให้เงินสามีไปไถ่จำนองจากธนาคารฯ นั้นดิฉันให้สามีเขียนสัญญาเงินกู้และบันทึกในสัญญาไว้ว่า "ได้กู้เงินจากดิฉันไปไถ่ที่ดินที่เป็นหนี้มาก่อนสมรสกับดิฉันไปจำนวนหนึ่งและยินยอมยกที่ดินแปลงนี้ให้ดินฉันครึ่งหนึ่งเป็นการชดใช้แทนเงินที่เอาไปจากดิฉัน" หลังจากทำสัญญากันเรียบร้อยแล้ว ดิฉันกับสามีก็ไปไถ่จำนองที่ดินจากธนาคารฯ ออกมา เป็นอันเสร็จสิ้น ต่อมาอีกประมาณ 6-7 เดือนนั้น สามีเกิดมีความจำเป็นต้องใช้เงินอีก สามีจึงนำที่ดินแปลงเดิมนี้แหละค่ะไปจำนองธนาคารไว้เหมือนเดิมอีก โดยดิฉันลงชื่อเป็นผู้ยินยอมให้สามีกู้ในฐานะภรรยาค่ะ และปัจุบันก็ยังติดจำนองกับธนาคารฯ อยู่ (ยังไม่ได้ไถ่) ดิฉันอยากเรียนถามท่านมีชัยฯ ว่าขณะนี้ที่ดินแปลงนี้ถือว่าสินส่วนตัวของสามีหรือถือเป็นสินสมรสของเราทั้งสองค่ะ และมีเหตุผลอย่างไรที่เป็นสินส่วนตัวหรือสินสมรสค่ะ ดิฉันขอรบกวนท่านฯ เพียงเท่านี้ค่ะ กราบขอพระคุณท่านฯ เป็นอย่างสูงค่ะ ดิฉันจะรออ่านคำตอมน่ะค่ะ
เป็นสินส่วนตัว เพราะเป็นที่ดินที่ได้รับการยกให้มา และมีมาก่อนสมรสกับคุณ ส่วนหนี้สินระหว่างคุณกับสามีก็เป็นเรื่องของหนี้สิน