กราบเรียน ท่านมีชัย ทราบ
ดิฉันมีเรื่องรบกวนจะสอบถามคะ ดิฉันแต่งงานแต่ไม่ได้จดทะเบียน และก็ไม่มีบุตร แต่งมาเป็น 13 ปี แต่พอต้นปี 50 ดิฉันได้ขอเลิกกับเขา เพราะเขานอกใจ เราพึ่งมาซื้อบ้านเมื่อต้นปี 48 ตอนนี้บ้านกำลังผ่อนอยู่กับธนาคารอาคารสงเคราะห์คะ ดิฉันตัดสินใจยกบ้านที่เราผ่อนด้วยกันให้เขากับภรรยาใหม่ แต่ปัญหาอยู่ที่เขาไม่ยอมผ่อนมาเข้าเดือนที่ 2 แล้วคะ (กพ.50) ตลอดเวลาผ่อนมาตลอด พอดิฉันรู้ว่าเค้าไม่ผ่อนมา 2 เดือนแล้ว ดิฉันพยายามติดต่อกับเค้าแต่ก็ติดต่อไม่ได้ ปิดมือถือ และไม่มีที่อยู่และงานเป็นหลักแหล่ง ณ เวลานี้ บ้านที่ซื้อไว้ก็ไม่ได้เข้าไปอยู่ปิดตายไว้เฉยๆ เคยส่งข้อความไปว่าถ้าไม่ผ่อนก็โอนสิทธิ์มาให้ดิฉัน แล้วจะผ่อนต่อเอง เค้าก็เงียบ ดิฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ถ้าเขาไม่โอนสิทธิ์มาให้ดิฉันก็ไม่รู้จะผ่อนต่ออย่างไร เพราะเค้าเป็นผู้กู้หลัก ส่วนดิฉันเป็นผู้กู้ร่วม นิสัยเค้าถ้าเค้าไม่ยินยอมเค้าก็จะแกล้งให้ถึงที่สุด เพราะถือว่ายังไม่อนุญาต ดิฉันจะทำอย่างไรคะ ส่งค่าบ้านไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเค้าเอาเสื้อผ้าภรรยาใหม่เข้าบ้านแล้ว เลยไม่รู้ว่าจะผ่อนต่อไปทำไม ผ่อนไปก็ไม่มีสิทธิ์อยู่บ้านหลังนั้น แต่ตอนนี้เค้าไม่ผ่อนเหมือนกัน แต่ตอนนี้ถ้าให้ดิฉันผ่อนต่อดิฉันมีกำลังในการผ่อนคะ ถ้าหาคนเช่าต่อดิฉันก็มีปัญญาที่จะหามาช่วยค่าส่งบ้านได้ ติดตรงที่ผู้ชายคนนั้นเค้าไม่ยอมดำเนินเรื่องอะไรเลย
ดิฉันกลุ้มใจคะ ถ้าดิฉันไม่ผ่อนแล้วยอมให้ศาลสั่งฟ้องล้มละลายแล้ว ตอนนี้ดิฉันทำงานอยู่ที่บริษัทเป็นหลักแหล่งและมั่นคงเป็นเวลา 10 ปีแล้ว มือถือก็ยังใช้เบอร์เดิม ทางธนาคารสามารถติดตามดิฉันได้ตลอด ตอนนี้ดิฉํนไม่มีทรัพย์สินที่เป็นชื่อของดิฉันเลย อาศัยบ้านของแม่อยู่ เงินเดือน 19,000 บาท ศาลจะทำอย่างไรกับดิฉันคะ จะยึดเงินเดือนของดิฉันกี่ส่วนคะ หนึ้สินที่เค้าทิ้งไว้ในชื่อดิฉันก็ยังต้องส่งให้เค้าอยู่คะ เพราะดิฉันจะยอมเป็นคนล้มละลายคะ และต้องไปขึ้นศาลบ่อยมั๊ยคะ ถ้าดิฉันไม่มีเงินจ้างทนาย โดยตัวดิฉันจะไปตอบคำถามศาลแบบตรงๆ และเป็นจริงทุกอย่าง ดิฉันจะเสียเปรียบมั๊ยคะ
เรียน คุณภาณี
ถ้าในการกู้เงินซื้อบ้านนั้นมีชื่อคุณเป็นผู้กู้คนเดียว ธนาคารก็ย่อมติดตามทวงถามเอาจากคุณ ถ้าคุณไม่ชำระเขาก็ยึดบ้านไปขาย ถ้ายังขาดเงินเท่าไรก็มาฟ้องเอาที่คุณ ส่วนจะถึงล้มละลายหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าหนี้นั้นถึงหนึ่งล้านหรือไม่ ในกรณีเช่นนี้ถ้าคุณจะเปลี่ยนใจเสียไม่ยกให้เขา โดยเข้าครอบครองบ้านและชำระหนี้เสียเอง ก็อาจจะทำได้ แต่ถ้าคุณกู้ร่วมกันโดยใช้ชื่อทั้งสองคน ในส่วนของคุณก็คงเหมือนเดิม คือเจ้าหนี้ยังคงติดตามทวงถามจากคุณได้ โดยเจ้าหนี้สามารถติดตามเอาจากอดีตสามีคุณได้ด้วย ในกรณีเช่นนี้ คุณก็เป็นเจ้าของบ้านนั้นครึ่งหนึ่ง ถ้าคุณเปลี่ยนใจไม่ยกส่วนของคุณให้เขา ก็มีสิทธิจะเข้าครอบครองและผ่อนส่งไปจนหมด ถ้าเขาจะมาเอาบ้านส่วนของเขา คุณก็สามารถเรียกร้องให้เขาชำระหนี้ส่วนของเขาให้คุณเสียก่อนได้
เรื่องนี้อาจจะดูสับสนหน่อย ทางที่ดีควรปรึกษาทนายความ