ควรทำอย่างไรดี ซื้อที่จากบังคับคดี 50 ไร่ ได้ที่ดินไม่ถึง 15 ไร่ ฟ้องขอยกเลิกการซื้อกับศาลปกครอง ศาลยกฟ้อง ขออุทธรณ์ ศาลรับอุทธรณ์ และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล เมื่อ 6 เดือนที่แล้วธนาคารซึ่งเป็นโจทก์ติดต่อมาให้ซื้อที่ดินแปลงนี้ เพราะที่ดินมีมูลค่า
เมื่อ 30 มกราคม 2547 ดิฉันได้ประมูลที่ดินน.ส.3 จำนวน 50 ไร่ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง จากสำนักงานบังคับคดีจังหวัด ในราคา 255,000 บาท จ่ายเพียงเงินมัดจำ จำนวน 20,000 บาท เพราะทราบหลังการประมูลว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเหลือประมาณ 15 ไร่เท่านั้น เพราะมีที่ดินผู้อื่นทับซ้อนอยู่ จึงขอยกเลิกการซื่อกับสำนักงานบังคับคดีจังหวัด ได้รับคำตอบว่าไม่สามารถยกเลิกได้
วันที่ 4 มีนาคม 2547ฟ้องร้องที่ศาลปกครอง เกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานฯ กรณีประกาศขายทอดตลาดของสำนักงานบังคับคดีจังหวัดไม่ตรงกับความเป็นจริงทั้งสิ่งปลูกสร้าง (บ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง เสา 12 ต้น พื้นไม้มะค่า ฝาไม้ยาง ขนาด 8X12 เมตร และโกดังเก็บของ ขนาด 12x20 เมตร ) และจำนวนเนื้อที่ เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกสัญญาซื้อ - ขายที่ดิน
วันที่ 4 มีนาคม 2548 ศาลพิพากษายกฟ้อง โดยอ้างว่าสิ่งปลุกสร้างเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลาที่ผ่านไป16 ปี หรืออาจมีการรื้อถอน ( สภาพจริง ไม่มีแม้แต่เสาบ้าน-เสาโกดัง ให้เห็น ) และน.ส.3 นั้นนายอำเภอเป็นผู้จัดทำขึ้นระบุจำนวนเนื้อที่ 50 ไร่ ประกาศขายทอดตลาดเป็นไปตามเอกสารราชการ จึงไม่ใช่ความผิดของสำนักงานบังคับคดีจังหวัด ส่วนกรณีขอให้ศาลยกเลิกสัญยา ซื้อ-ขาย นั้นเป็นกรณีพิพาทเกี่ยวกับสัญญา ไม่อยู่ในอำนาจของศาลปกครอง
วันที่ 2 พฤษภาคม 2548 ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ( ติดตามแล้วยังไม่มีความก้าวหน้า)
ประมาณ เดือนสิงหาคม 2549 ธนาคารผู้เป็นโจทก์ของการฟ้องร้องที่ดินแปลงนี้ ได้ติดต่อให้ซื้อที่ดินแปลงนี้ เพราะที่ดินมีมูลค่าเพิ่มเหมาะสมกับราคาที่ประมูลแล้ว
จึงขอเรียนปรึกษาอาจารย์ ดังนี้
1. ดิฉัน ควรดำเนินการอย่างไรดี จึงจะถูกต้อง และเหมาะสม
2. หากตัดสินใจซื้อ เพื่อตัดปัญหาการขึ้นโรงขึ้นศาล หรือการเป็นคดีความจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ( ทราบมาว่าที่ดินละแวกเดียวกันนี้มีการออก น.ส. 3 ทับซ้อนอีกหลายแปลง... เดิมทีดิฉันตัดสินใจฟ้องร้องก็เพราะไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหา ไม่คิดว่าเรื่องจะยืดยาว และ/หรือ บานปลายมากขึ้นไปอีก )
ด้วยความเคารพอย่างสูง
ผู้อยากรู้
|