เรียน อาจารย์มีชัย
ดิฉันเคยถามอาจารย์เรื่องที่สามีและดิฉันได้นำีที่ดินที่เป็นมรดกของพ่อแม่ไปทำินิติกรรมอำพรางโดยพ่อขายให้ดิฉันและสามี โดยเอาเงินไปกู้ธนาคาร ธอส. เพื่อนำมาปรับปรุงบ้านและซื้อรถแต่ระยะเวลาไม่ถึงเดือนหลังจากที่ทำนิติกรรมสามีก้อขอแยกกันอยู่กับดิฉัน ซึ่งปกติเค้าก้อรับราชการทหารไม่ค่อยกลับบ้านอยู่แล้ว เนื่องจากเค้ามีผู้หญิงอื่น และทางเืพื่อน ๆ เค้าก้อยอมรับว่าได้ยกย่องว่าเป็นแฟนเค้าและทางสามีก้อยอมรับว่าไปมาหาสู่กับญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายโน้น และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ครบ 1 ปีแล้วที่ไม่ยอมกลับบ้าน แต่เค้าส่งธนาคารเองทุกเดือน ซึ่งดิฉันขอเรียนถามอาจารย์เป็นข้อ ๆ ดังนี้นะค่ะ
1. ดิฉันจะฟ้องหย่ากับเค้าได้หรือไม่และสามารถที่จะฟ้องหย่าอย่างไร
2. ถ้าดิฉันฟ้องหย่า ที่ดินที่ทำเป็นนิติกรรมอำพรางว่าพ่อขายให้้ดิฉันและเค้าซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมจะต้องแบ่งคนละครึ่งหรือเปล่า เพราะตอนที่ขายนั้นทางกรมที่ดินเค้าเห็นว่าทุกคนอยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกัน และถามดิฉันว่าพ่อขายให้ลูกสาวใช่หรือไม่ในราคาบ้านและที่ดินราคาประเมิน 2 ล้าน แต่ดิฉันแจ้งว่าพ่อขายให้ลูกแสนสอง เพื่อให้เสียภาษีน้อย ตรงนี้ศาลจะรับฟังหรือไม่ถ้าดิฉันไม่ต้องการให้เขามีสิทธิื์ในที่ดินตรงนี้เพราะตอนกู้มาพ่อกับแม่ไม่ได้รับเงินเลยแม้แต่บาทเดียวเพราะส่วนใหญ่จะไปซื้อเกือบหมด
3. ดิฉันควรจะแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาเค้าทราบดีหรือไม่ว่าเค้ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและไม่รับผิดชอบต่อครอบครัว
คงจะเรียนถามอาจารย์เ่ท่านี้นะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
เรียน คุณกบ
1. ฟ้องได้ในฐานะไปเลี้ยงดูหรือยกย่องหญิงอื่นฉันภริยา
2. เฉพาะในส่วนนี้ควรปรึกษากับทนายความ
3. ถ้าจะฟ้องหย่า ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปร้องเรียนผู้บังคับบัญชา เพราะคงไม่ค่อยเกิดผลอะไรนัก เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว