เรียน ท่านมีชัย ฤชุพันธ์ ที่เคารพรักอย่างสูง ดิฉันขอเรียนหารือท่านและขอคำแนะนำจากท่าน โดยมีความละเอียดดังนี้ดิฉันแต่งงานโดยการจดทะเบียนสมรสและมีบุตรจำนวน 2 คน อายุ 10 และ 5 ขวบ ขณะนี้สามีไปมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับหญิงอื่น(ยังลักลอบไปมาหาสู่กันสม่ำเสมอ)ได้ทอดทิ้งดิฉันกับลูกๆให้อยู่กันตามลำพังมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว(รับราชการทั้งหมดทั้งสามคน)และดิฉันได้ทำหนังสือร้องเรียนบุคคลทั้งสองให้ผู้บังคับบัญชาทั้งสองคนรับทราบและได้โทรศัพท์เรียนกับผู้บังคับบัญชาทั้งคู่ได้รับทราบเป็นการเบื้องต้นแล้ว และในหนังสือร้องเรียนดิฉันได้ระบุชัดเจนว่าขอปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่ได้ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อสามีแต่ประการใด และได้ทราบจากผู้บังคับบัญชาของสามีว่าได้เรียกมาตักเตือนและทำทัณฑ์บนเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนแล้ว ขณะนี้สามีได้ข่มขู่ดิฉันว่าจะฟ้องร้องดิฉันในฐานะที่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันอย่างร้ายแรง ดิฉันอยากทราบว่า 1. สามีจะฟ้องหย่าในข้อหาการทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อกันได้หรือไม่ 2. ดิฉันไม่ต้องการจะหย่าเนื่องจากมีหนี้สินร่วมกันเป็นจำนวนมากและไม่สามารถตกลงกันได้ หากปล่อยให้นานไปกว่านี้ สามีจะอ้างเหตุในการฟ้องหย่าได้หรือไม่ 3. ขณะนี้ดิฉันและเขาตกลงแยกกันอยู่ชั่วคราวเพื่อความสบายใจโดยระบุในข้อตกลงร่วมกันว่าจะไม่มีการหย่ากันและให้ดิฉันเป็นผู้ดูแลบุตรทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ของบุตรทั้งสองคน โดยเขาจะช่วยค่าเลี้ยงดูบุตรเป็นรายเดือนๆละประมาณ 4,000 บาทและรับภาระเรื่องผ่อนบ้านให้ ข้อตกลงดังกล่าวจะนำมาเป็นหลักฐานการฟ้องหย่าจากสามีได้หรือไม่ (ข้อตกลงไม่ได้ลงวันที่ แต่มีพยานเป็นญาติพี่น้อง) 4. สามีต้องการกู้เงินออมทรัพย์จากสหกรณ์ออมทรัพย์ของหน่วยงานเขาดิฉันไม่ต้องการลงลายมือชื่อให้ความยินยอม สามีจะอ้างเหตุผลในการกู้เงินดังกล่าวว่าได้แยกกันอยู่กับภรรยาแล้วดำเนินการขอกู้เงินเองโดยดิฉันไม่ได้ให้ความยินยอมได้หรือไม่ ดิฉันมีวิธีป้องกันอย่างไร (ทราบว่าผู้หญิงของเขากำลังเดือดร้อน) 5. ผู้หญิงของเขาโทรมารังควานดิฉันเป็นประจำทั้งส่งข้อความต่อว่าและบัตรสนเท่ห์อยู่เรื่อยๆ ไม่ได้ระบุว่าเป็นเธอทำแต่ดิฉันทราบว่าเป็นเธอแน่นอนดิฉันสามารถฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทได้หรือไม่ 6. สามีได้ย้ายไปต่างจังหวัดแล้วด้วยหน้าที่การงานของทางราชการหากเขาจะนำมาเป็นข้ออ้างว่าได้แยกกันอยู่กับภรรยาให้ครบกำหนดเกินกว่า 3 ปีของการแยกกันอยู่ เขาสามารถฟ้องหย่าดิฉันได้หรือไม่ แต่เขายังไปมาหาสู่ลูกๆ ทุกสัปดาห์ และได้โอนเงินเข้าบัญชีดิฉันทุกเดือน(ได้ไม่ครบข้อตกลง) ทุกวันนี้ดิฉันสบายใจที่ไม่มีสามีอยู่ร่วมบ้านแต่อยากรักษาผลประโยชน์ต่างๆที่จะมีและจะเกิดขึ้นไว้ให้บุตรทั้งสองคนอย่างเต็มที่ จึงขอกราบขอบพระคุณท่านเป็นอย่างยิ่งในคำแนะนำต่างๆจากท่าน
เรียน คุณพักตร์พิไล
1. ฟ้องไม่ได้ เพราะตัวเขาเองต่างหากที่กระทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยา
2. เมื่อเขาเป็นฝ่ายผิดเขาจึงอ้างมาเป็นเหตุฟ้องหย่าไม่ได้ แต่การอยู่กันไปอย่างนี้เพียงเพราะปัญหาเรื่องเงินทอง ไม่น่าจะเป็นการดี เพราะถ้าหย่ากันแล้วก็สามารถเรียกร้องให้เขารับผิดชอบในหนี้สินและค่าเลี้ยงดูได้
3. ข้อตกลงเช่นนี้ เมื่อแยกกันอยู่ไปถึง ๓ ปี เขาอาจหยิบยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการหย่าว่าได้สมัครใจแยกกันอยู่ได้
4. คุณไม่ควรให้ความยินยอม มิฉะนั้นอาจผูกพันให้คุณต้องไปร่วมรับผิดในหนี้สินนั้นได้
5. ถ้ามีหลักฐานก็ฟ้องหมิ่นประมาทได้
6. ไม่ได้ แต่ต้องระวังข้อเท็จจริงตามข้อ ๓