ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    020234 เป็นการทำตัวเป็นฏิปักษ์ต่อสามีหรือไม่พักตร์พิไล16 มกราคม 2550

    คำถาม
    เป็นการทำตัวเป็นฏิปักษ์ต่อสามีหรือไม่

    เรียน   ท่านมีชัย  ฤชุพันธ์  ที่เคารพรักอย่างสูง
             
    ดิฉันขอเรียนหารือท่านและขอคำแนะนำจากท่าน โดยมีความละเอียดดังนี้ดิฉันแต่งงานโดยการจดทะเบียนสมรสและมีบุตรจำนวน 2 คน อายุ 10 และ 5 ขวบ  ขณะนี้สามีไปมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับหญิงอื่น(ยังลักลอบไปมาหาสู่กันสม่ำเสมอ)ได้ทอดทิ้งดิฉันกับลูกๆให้อยู่กันตามลำพังมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว(รับราชการทั้งหมดทั้งสามคน)และดิฉันได้ทำหนังสือร้องเรียนบุคคลทั้งสองให้ผู้บังคับบัญชาทั้งสองคนรับทราบและได้โทรศัพท์เรียนกับผู้บังคับบัญชาทั้งคู่ได้รับทราบเป็นการเบื้องต้นแล้ว และในหนังสือร้องเรียนดิฉันได้ระบุชัดเจนว่าขอปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่ได้ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อสามีแต่ประการใด  และได้ทราบจากผู้บังคับบัญชาของสามีว่าได้เรียกมาตักเตือนและทำทัณฑ์บนเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนแล้ว  ขณะนี้สามีได้ข่มขู่ดิฉันว่าจะฟ้องร้องดิฉันในฐานะที่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันอย่างร้ายแรง  ดิฉันอยากทราบว่า
                1.   สามีจะฟ้องหย่าในข้อหาการทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อกันได้หรือไม่
                2.   ดิฉันไม่ต้องการจะหย่าเนื่องจากมีหนี้สินร่วมกันเป็นจำนวนมากและไม่สามารถตกลงกันได้ หากปล่อยให้นานไปกว่านี้ สามีจะอ้างเหตุในการฟ้องหย่าได้หรือไม่
                3. ขณะนี้ดิฉันและเขาตกลงแยกกันอยู่ชั่วคราวเพื่อความสบายใจโดยระบุในข้อตกลงร่วมกันว่าจะไม่มีการหย่ากันและให้ดิฉันเป็นผู้ดูแลบุตรทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ของบุตรทั้งสองคน โดยเขาจะช่วยค่าเลี้ยงดูบุตรเป็นรายเดือนๆละประมาณ 4,000 บาทและรับภาระเรื่องผ่อนบ้านให้ ข้อตกลงดังกล่าวจะนำมาเป็นหลักฐานการฟ้องหย่าจากสามีได้หรือไม่ (ข้อตกลงไม่ได้ลงวันที่ แต่มีพยานเป็นญาติพี่น้อง)
                 4. สามีต้องการกู้เงินออมทรัพย์จากสหกรณ์ออมทรัพย์ของหน่วยงานเขาดิฉันไม่ต้องการลงลายมือชื่อให้ความยินยอม  สามีจะอ้างเหตุผลในการกู้เงินดังกล่าวว่าได้แยกกันอยู่กับภรรยาแล้วดำเนินการขอกู้เงินเองโดยดิฉันไม่ได้ให้ความยินยอมได้หรือไม่ ดิฉันมีวิธีป้องกันอย่างไร (ทราบว่าผู้หญิงของเขากำลังเดือดร้อน)
                  5.  ผู้หญิงของเขาโทรมารังควานดิฉันเป็นประจำทั้งส่งข้อความต่อว่าและบัตรสนเท่ห์อยู่เรื่อยๆ ไม่ได้ระบุว่าเป็นเธอทำแต่ดิฉันทราบว่าเป็นเธอแน่นอนดิฉันสามารถฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทได้หรือไม่
                 6. สามีได้ย้ายไปต่างจังหวัดแล้วด้วยหน้าที่การงานของทางราชการหากเขาจะนำมาเป็นข้ออ้างว่าได้แยกกันอยู่กับภรรยาให้ครบกำหนดเกินกว่า 3 ปีของการแยกกันอยู่ เขาสามารถฟ้องหย่าดิฉันได้หรือไม่ แต่เขายังไปมาหาสู่ลูกๆ ทุกสัปดาห์ และได้โอนเงินเข้าบัญชีดิฉันทุกเดือน(ได้ไม่ครบข้อตกลง)
                    ทุกวันนี้ดิฉันสบายใจที่ไม่มีสามีอยู่ร่วมบ้านแต่อยากรักษาผลประโยชน์ต่างๆที่จะมีและจะเกิดขึ้นไว้ให้บุตรทั้งสองคนอย่างเต็มที่  จึงขอกราบขอบพระคุณท่านเป็นอย่างยิ่งในคำแนะนำต่างๆจากท่าน

    คำตอบ

    เรียน คุณพักตร์พิไล

       1. ฟ้องไม่ได้ เพราะตัวเขาเองต่างหากที่กระทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยา

       2. เมื่อเขาเป็นฝ่ายผิดเขาจึงอ้างมาเป็นเหตุฟ้องหย่าไม่ได้  แต่การอยู่กันไปอย่างนี้เพียงเพราะปัญหาเรื่องเงินทอง ไม่น่าจะเป็นการดี เพราะถ้าหย่ากันแล้วก็สามารถเรียกร้องให้เขารับผิดชอบในหนี้สินและค่าเลี้ยงดูได้

      3. ข้อตกลงเช่นนี้ เมื่อแยกกันอยู่ไปถึง ๓ ปี เขาอาจหยิบยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการหย่าว่าได้สมัครใจแยกกันอยู่ได้

     4. คุณไม่ควรให้ความยินยอม มิฉะนั้นอาจผูกพันให้คุณต้องไปร่วมรับผิดในหนี้สินนั้นได้

    5. ถ้ามีหลักฐานก็ฟ้องหมิ่นประมาทได้

    6. ไม่ได้  แต่ต้องระวังข้อเท็จจริงตามข้อ ๓

     

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    16 มกราคม 2550