วันที่เกิดเหตุคือวันที่ 12 ธ.ค.2549 เวลาประมาณ 20.00น ขณะที่ผมกลับจากมหาลัย กำลังรอรถเมล์ที่บริเวณหน้าตลาดสามย่าน ในขณะที่ขึ้นรถมีชายคนหนึ่งเบียดเข้าหาผม ผมรู้สึกว่าโดนดึงบางอย่างจึงลองดูที่ซองมือถือ ปรากฏว่ามือถือผมหายไป และผมพยายามโทรเข้าสุดท้ายก็ปิดเครื่อง จึงมั่นใจว่าโดนล้วงมือถือไป รุ่งเช้า(วันที่13.ธ.ค.2549) จึงได้มาดำเนินการแจ้งความที่ สน.ปทุมวันเพื่อเป็นหลักฐาน มือถือที่หายเป็นยี่ห้อ Sony Ericson P910i กระผมมีความจำเป็นที่ต้องใช้มือถือจึงหาซื้อเครื่องใหม่มาใช้ ในวันที่ 21 ธ.ค.2549 ผมได้ไปเจอมือถือที่เหมือนของผมที่ร้านแห่งหนึ่ง เลยเช็ดดูข้อมูลปรากฏว่าเป็นเครื่องที่หายไป ตรงกับบันทึกประจำวันที่แจ้งไว้ ในวันนั้นทางตำรวจก็เชิญมาที่ สน.ปทุมวัน แล้วได้คุยกันเบื้องต้น และนัดใหม่อีกทีในวันรุ่งขึ้น ทางร้านได้นำหลักฐานสมุดซื้อขายพบว่า นายคมสันต์ นิตย์สง่า เป็นผู้ที่นำมาขาย ทางร้านได้รับซื้อไว้ในราคา 6100 บาท และให้ร้านอยู่ในฐานะพยาน ทางตำรวจบอกผมว่าถ้าอยากได้คืนผมต้องไปซื้อคืนจากร้าน เนื่องจากร้านมีใบอนุญาตขายของเก่าถูกต้องไม่ใช่ร้านเถื่อน และมีการรับซื้ออย่างถูกต้อง แต่หากผมไม่ซื้อคืนทางตำรวจจะอายัดของกลางเอาไว้ ซึ่งในตอนแรกทางตำรวจบอกว่าไม่สามารถอายัดของไว้ได้ จนผมโต้แย้งทางตำรวจจึงอายัดไว้ เมื่อเครื่องถูกอายัดทางร้านพยายามจะให้ผมซื้อต่อให้ได้ครับทางผมก็ไม่เข้าใจครับ กรณีที่สอบถาม 1.ทางร้านไม่มีความผิดเลยหรือ ทางตำรวจบอกว่าทางร้านทำถูกต้องทุกอย่าง มือถือเป็นกรรมสิทธิ์ของร้านไปแล้ว ให้ผมไถ่คืนโดยให้ผมไป"ไล่เบี้ยกับคนร้ายเอาเอง" คือตอนนี้ในใบแจ้งความเพื่อดำเนินคดีเป็นเรื่องของผมกับคนร้ายเท่านั้น ตำรวจพิสูจน์ได้อย่างไรว่าทางร้านซื้อมาถูกต้อง ถ้าอย่างนี้ถูกต้องผมก็จะเปิดร้านรับซื้อรถมือสองมีใบอนุญาตถูกต้อง หากของที่ซื้อเป็นของโจรผมก็แค่ขายคืนเจ้าของ แล้วให้เจ้าของไปเอาเงินคืนกับคนร้ายเอง ผมแทบไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยที่รับซื้อของโจรมาใช่ไหมครับ หรือว่ามือถือมันเล็กๆน้อยๆ 2.แล้วของที่ซื้อขายถูกต้องหากเป็นของที่ขโมยมา ซึ่งได้แจ้งความไว้แล้ว ถือว่าการซื้อขายยังถูกต้องอีกไหมครับ แล้วทางผมจะต้องไปทวงคืนกับโจรเองอย่างนั้นหรือครับ แล้วที่ให้ผมมาแจ้งความไว้เพื่ออะไร ครับ3.ถ้าหากผมพิสูจน์ได้ว่ามือถือเป็นของผม กรรมสิทธิ์เป็นของใครครับ ผมสามารถเอาคืนได้ไหมครับ ทำไมทางตำรวจและงร้านยังคะยั้นคะยอให้ผมซื้ออีก ซึ่งทางผมแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรกับผมเลย ผมมีสิทธิไม่ซื้อคืนก็ได้ใช่ไหมครับ แล้วผมจะมีการดำเนินการเพื่อขอรับของคืนได้ไหมครับ เรื่องของกระผมไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่นะครับ แต่ผมแค่อยากจะทวงถามสิทธิ์ของผู้เสียหาย เพราะผมคิดว่าคงมีผู้เสียหายอีกหลายๆคนที่ไม่ได้รู้เรื้องทางกฎหมายเช่นผม คงไม่มีโอกาสทวงถามสิทธิ์ของตัวเองเลย ทำให้รู้สึกว่ากฎหมายไม่ได้คุ้มครองผู้เสียหายได้เลยในหลายๆกรณี ขอรบบกวนสอบถามเพียงเท่านี้นะครับ ขอบพระคุณอย่างสูง
1. ในฐานะที่ผู้ซื้อเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ค้าของเก่า ซึ่งมีกฎเกณฑ์ว่าในเวลารับซื้อของเก่าจะต้องทำอย่างไร หากเขาได้ทำตามนั้นแล้วเขาย่อมได้รับความคุ้มครองทำให้ไม่มีความผิดฐานรับของโจร ในกรณีเช่นนั้นเขาย่อมมีสิทธิได้รับค่าของคืนจากเจ้าของ
2. การซื้อขายนั้นจะถูกต้องหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าเขาได้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของการค้าของเก่าแล้วหรือไม่
3. คุณเอาคืนได้แต่ต้องใช้ราคา เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าในขณะที่ซื้อผู้ซื้อรู้หรือควรจะรู้อยู่แล้วว่าทรัพย์นั้นเป็นของที่ขโมยมา