เรียนอาจารย์ที่เคารพ

          เนื่องจากดิฉันให้แฟนยืมเงินประมาณ 100,000 บาท โดยดิฉันไปกู้เงินจากสหกรณ์ของหน่วยงาน (ใครก็คิดว่าดิฉันทำไม่ชั่งใจดีเหลือเกิน ก็ด้วยความมีเมตตาธรรมอย่างแรงกล้าที่ต้องการช่วยเหลือแฟนจากการกู้เงินนอกระบบ ซึ่งก็รู้กันอยู่ว่าดอกเบี้ยโหดมากๆ) ที่ผ่านมาแฟนก็ผ่อนคืนให้สหกรณ์ตลอด และด้วยความกังวลใจดิฉันก็ให้แฟนของดิฉันทำสัญญายืมเงินโดยให้พี่และน้องของแฟนเป็นผู้คำประกันทั้งสองคน ต่อมาแฟนของดิฉัน (ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส) เสียชีวิตลง และดิฉันขอให้ครอบครัวของแฟนช่วยผ่อนหนี้ที่คงเหลือให้ต่อไป แต่กลับถูกปฏิเสธ ประกอบกับดิฉันทราบว่าแฟนของดิฉันมีทรัพย์สินและเงินสวัสดิการต่างๆ ที่สะสมมาตลอดระยะเวลาที่มีชึวิตอยู่บ้างพอสมควร แต่ทั้งนี้ทรัพย์สินดังกล่าวได้ตกแก่ทายาทไปเรียบร้อยแล้ว จึงใคร่ขอเรียนถามอาจารย์ดังนี้

            ๑. ดิฉันสามารถบังคับเอากับทรัพย์สินของแฟนที่เสียชีวิตได้หรือไม่

            ๒. ดิฉันสามารถบังคับให้ผู้ค้ำ คือพี่น้องของแฟนที่เสียชีวิต ชดใช้หนี้ให้ดิฉันได้หรือไม่ (แบบผ่อนเป็นงวดๆ ซึ่งในสัญญากู้ที่ดิฉันทำไว้นั้น ดอกเบี้ยร้อยละ ๙ ต่อปี และพี่สาวของแฟนที่เป็นบุคคลคำประกันที่ ๑ รับราชการอยู่ มีความสามารถในการผ่อนชำระอยู่แล้ว แต่ผู้คำบุคคลที่ ๒ ไม่มีอาชีพอะไรเลย)

              ๓. จากข้อ ๒ ดิฉันต้องทำอย่างไรในทางศาลบ้างเพื่อให้ผู้ค้ำยินยอมชดใช้ เนื่องจากดิฉันได้แจ้งให้ทราบแล้ว คือพยายามไม่ให้เป็นเรื่องอะไรมากมายไม่คิดจะหาผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น แต่ขอให้ทางญาติของแฟนชดใช้ทุกบาททุกสตางค์ที่ดิฉันกู้มาจากสหกรณ์ของหน่วยงานเท่านั้น

             ๔. อีกหนึ่งเงื่อนไข พอดีผู้ค้ำประกันคนที่ ๑ ได้จดทะเบียนหลังจากทำสัญญาค้ำประกันไปแล้วทำให้นามสกุลเปลี่ยนไปจากในสัญญา

               จึงเรียนมาเพื่อโปรดให้คำแนะนำด้วยค่ะ (ดิฉันจะได้มีกำลังใจหน่อยว่าทำดีได้ดี ไม่ใช่เอ็นดูเค้าเนเราขาด)

เรียน คุณเชอร์ทิพย์

    1.  ได้  ถ้าทายาทเขารับมรดกไปแล้วก็สามารถไปตามทวงจากทายาทได้ (เท่าที่ไม่เกินส่วนที่เขารับมรดกไป)

    2.  คุณยมีสิทธิ์ฟ้องเอาเงินคืนจากผู้ค้ำประกันได้

   3. หาทนายความแล้วไปดำเนินคดีทางศาล

   4.  ถึงจะเปลี่ยนนามสกุลแล้ว ก็ยังตามทวงเอาได้