ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    020018 ตัดสินใจไม่ถูกทุกข์เพิ่มทุกวัน24 ธันวาคม 2549

    คำถาม
    ตัดสินใจไม่ถูก

    ดิฉันกับสามีแต่งงานจดทะเบียนสมรสปี 2526 มีบุตรปี 2530 เป็นชาย 1 คน โชคดีที่บุตรเป็นเด็กดี ปี 2544 สามีประพฤติผิดวินัยเรื่องชู้สาว และต่อมา ก็อยู่กับผู้หญิงคนนั้น โดยเช่าหออยู่ แต่สามียังมาแต่งตัวที่บ้านตอนเช้า และมาดูแลต้นไม้ บ้าน หลังเลิกงาน วันเสาร์-อาทิตย์ถ้าผู้หญิงหยุดงาน หรือหยุดเรียน(เรียนต่อ ทำงานด้วย) เขาก็อยู่กับผู้หญิง ดิฉันทนทุกอย่างเพราะเห็นแก่ลูก และเขารักลูกมาก นับถึงวันนี้เราแยกกันอยู่ ไม่มีความสัมพันธ์กันมา 4 - 5 ปีแล้ว แต่เขายังมาบ้านตามเวลาที่เรียนข้างต้นตามปกติ
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เขามาขอให้ไปเซ็นยินยอมให้เขาซื้อบ้าน ซึ่งดิฉันไม่ทราบมาก่อนเลย เขาบอกว่า ต้องการดัดนิสัยตัวเองให้เลิกดื่ม เอาเงินมาผ่อนบ้านดีกว่า(ปัจจุบันก็ผ่อนหลังที่ดิฉันอยู่กับลูก) และเขาบอกเขาอายที่ต้องไปอยู่หอ และผู้หญิงก็อายที่ต้องอยู่หอ ดิฉันยังมึนงง และชามากๆ เซ็นยอมให้เขาไป แล้วกลับมาร้องไห้กับเพื่อนสนิท พอช่วงบ่ายก็ตั้งสติ ให้เขาพาไปดูบ้าน บ้านน่ารักมาก หลังเล็กๆ เขาบอกว่า อย่างไรก็เป็นสินสมรส พอเขาไม่มีเงินมากผู้หญิงก็คงจะไปเอง เขาบอกว่าผู้หญิงบอกเขา ถ้ายังหาใหม่ที่ดีกว่าเขาไม่ได้ ก็จะยังไม่ไป เขาไม่แก้ปัญหาวิธีใด เพียงแต่บอกดิฉันว่า รอให้ผู้หญิงนี้เป็นฝ่ายไปเอง เพราะเขาแก่ตัวลงทุกวัน ผู้หญิงสาวสวย คงอยู่กับเขาไม่ทน(อยู่มา 4-5 ปีแล้ว ยังไม่ทนอีกหรือนี่) เขาอายุ 49 ผู้หญิงอายุ 24 ปี ดิฉันอายุเท่าสามี
    วันนี้ดิฉันปวดหัวมาก คิดไม่ตกว่าจะดำเนินชีวิตของลูกกับตัวเองอย่างไร..ทำตัวให้เหมือนคนโง่ เชื่อเขา ทั้งๆที่ในใจไม่ค่อยเชื่อที่เขาบอกเหตุผลในการซื้อบ้าน ดูเหมือนเขาไม่มีท่าทีจะเลิกรากัน ก่อนๆ ผู้หญิงคนนี้โทรศัพท์มาระรานเสมอ สามีมาอยู่บ้านกับลูก นานเกิน ครึ่งวัน เขาจะโทรศัพท์กระหน่ำทันที แม้กระทั่งงานศพพ่อของดิฉัน เขาโทรตามสามีๆปิดมือถือ เขาโทรหาดิฉันแทน ดิฉันเหลืออดเลยว่าไปว่า กำลังทำบุญให้คนตาย ขอให้รู้กาละเทศะหน่อย แล้วปิดมือถือ
    ดิฉันต้องขออภัยท่านอาจารย์ด้วยค่ะ ตอนนี้มืดตื้อไปหมด ตั้งใจจะถามปัญหาท่านหลายข้อ นึกไม่ออกแล้ว ในวันหนึ่งวันหนึ่ง ท่านคงรับฟังปัญหามากมาย ต้องขออภัยอีกครั้ง ขอถามสะเปะสะปะดังนี้ค่ะ
    1. บ้านหลังที่อยู่ปัจจุบัน ชื่อที่ดินเป็นของดิฉันก่อนจดทะเบียน แต่ไม่ได้แจ้งเป็นสินสมรส ถ้าเราต้องมีอันหย่าขาดกัน จะมีวิธีไหนที่จะทำให้มีหลักฐานว่า บ้านนี้ เขาต้องรับผิดชอบผ่อนชำระต่อไป แต่เขาต้องยกให้ลูกกับดิฉันเท่านั้น
    2. ดิฉันขอความกรุณาชี้แนะให้ด้วยค่ะ ว่ากรณีแบบนี้ ดิฉันควรจะจัดการอย่างไร หย่า และดำเนินการแบบใดที่ทำให้ทรัพย์ที่หามาด้วยกัน คือ บ้าน รถยนต์ เป็นของลูกกับดิฉัน แม้ว่าเขาจะไปจดทะเบียนกับผู้หญิงคนนั้นภายหลัง พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์ในบ้าน และทรัพย์สินดังกล่าว
    3.แยกกันอยู่เวลา 4-5 ปี โดยที่สังคมส่วนมากยังไม่รับรู้ ว่าแยกกันอยู่ แต่เขาอยู่กันแบบเปิดเผย สังคมกลุ่มใกล้ชิดเรารับรู้ ในกรณีนี้ ดิฉันมีสิทธิ์เรียกร้องใดใดหรือไม่ หากต้องหย่าร้างกัน
    4.บุตรชายกำลังศึกษาต่อ ไม่อยากให้เขากระเทือน แต่กรณีนี้ดิฉันรู้สึกว่า เขาทำเกินไป สมควรจะทำประการใดดีคะ
    กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ล่วงหน้าค่ะ...สมองตื้อไปหมด

     

     

    คำตอบ

    1.  ถ้าที่ดินนั้นคุณมีอยู่ก่อนสมรส ก็เป็นสินส่วนตัว (ไม่ใช่สินสมรส)  ส่วนบ้านที่ซื้อในระหว่างสมรสจึงจะเป็นสินสมรส ถ้าจะหย่าจากกัน คุณก็ต้องตกลงกันว่าจะยกบ้านหลังนี้ให้กับใคร และใครจะเป็นคนผ่อนส่งต่อ  แต่ต้องระวังว่าในกรณีที่ให้เขาผ่อนส่งให้ พอเวลาผ่านไปเขาอาจนิ่งเฉยไม่ผ่อนส่ง คุณก็จะเดือดร้อน

    2. ถ้ามันเหลือบ่ากว่าแรงที่จะทนอยู่ต่อไป ก็ควรหย่ากันเสีย

    3. คุณมีสิทธิเรียกร้องได้เต็มที่ เพราะคุณไม่ได้เป็นฝ่ายผิด

    4.เผชิญหน้ากับความจริงที่เป็นอยู่

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    24 ธันวาคม 2549