เรียน ท่านมีชัย
ผมมีปัญหากรณีพิพาทที่ดินกับเพื่อน ดังนี้ ที่ดินของผมเป็นโฉนดมีเนื้อที่ 508 ตารางวา ผู้ถือกรรมสิทธิร่วมกัน ประวัติเดิมคือโฉนด รศ.128 ต่อมานางทอง ซึ่งเป็นย่าของผม เป็นผู้รับมรดกที่ดิน เมื่อ พ.ศ.2492และ พ.ศ.2493ให้เพิ่มชื่อนายรอดลงในโฉนดและพ.ศ.2494 ให้เพิ่มชื่อนายวาน โดยไม่รู้ว่าโฉนดไม่ครอบคุมเนื้อที่ทั้งหมดที่เข้าครอบครอง เมื่อนายรอดตายลูกของนายรอดได้ไปลงชื่อรับมรดกนายรอด จำนวน 5คนเมื่อทั้ง5คนตายนางรัตนาและลูกสาวได้รับมรดก รับกรรมสิทธิเฉพาะส่วนของนายรอด นางทองตาย บิดาของผมได้รับมรดกเมื่อ 2516 และเมื่อบิดาผมตายพ.ศ.2544 ผมได้ลงชื่รับมรดกเฉพาะส่วนของบิดา นายวานตาย นางตุ่นซึ่งเป็นลูกสาว ได้ลงชื่อในโฉนดรับมรดกเฉพราะส่วนของนายวาน ขณะนี้ ผู้มีชื่ออยู่ในโฉนดมีจำนวน 5 คนคือ 1. นางรัตนา 2.นางนันทิยา 3. นายช้าง ( ทั้งสามคนรับกรรมสิทธิจากส่วนของนายรอด 4.นายวิยุทธ รับส่วน ของนางทอง 5. นางตุ่นรับส่วนของนายวาน ปัญหามีดังนี้ คือ นางรัตนา น.ส.นันทิยา และนางนา (ภรรยานายช้าง) นายช้างตายแล้ว ได้รู้จากเจ้าหน้าที่ที่ดินที่ออกรังวัดออกโฉนดตามนโยบายของรัฐบาลทักษิณ ที่ที่เขาอยู่ เป็นที่โฉนดครอบคุมไม่ถึง ทั้งสามคนไปยื่นขอออกโฉนดจากเจ้าหน้าที่ที่ดิน โฉนดเนื้อที่ครอบคุมอยู่ในที่ของผมและของนางตุ่น ผมและนางตุ่นได้ร่วมกันคัดค้านการขอออกโฉนดจากบุคคล ทั้ง 3 เพราะได้ไปสอบถามแล้วว่าถ้าออกโฉนดแล้วก็จะขอส่วนในกรรมสิทธิที่มีชื่ออยู่ในโฉนดอีก ทำให้ผมและนางตุ่น ที่ดินที่ปกครองอยู่ถูกแบ่งทำให้เหลือน้อย ขอเรียนถามว่า จะคัดค้านการขอออกโฉนดอย่างไร? เพราะถ้าไปฟ้องศาลไม่คุ้มกับค่าทนาย ขอข้อเสนอแนะทางออกที่ดีเพื่อยุติกรณีพิพาท
นายวิยุทธ
อ่านแล้วไม่เข้าใจจริง ๆ