เรียน อาจารย์มีชัย
สืบเนื่องจาก... แม่ให้คนรู้จักกันยืมเงิน 1,400,000 บาท (โดยที่พ่อและคนในบ้านไม่รู้เรื่อง) โดยเค้าชำระคืนเป็นเช็ค2ใบ แต่เช็คเด้งค่ะ แล้วเค้าก็หนี พยายามติดต่อ เพื่อนเค้าบอกว่าจะขอทยอยคืน เดือนละ50,000บ. สัญญาเงินกู้ทำไว้ 2ฉบับ (เป็นเงิน 480,000 บ. กับ 560,000บ. ) ใบที่2ไม่มีลายเซ็นต์ผู้ค้ำประกัน มีแต่ลายเซ็นต์ผู้กู้ (ใบแรกภรรยาของผู้กู้เป็นคนเซ็นค้ำประกัน)และที่สำคัญ ไม่มีหลักทรัพย์ หรือหลักประกันใดๆเลยค่ะ ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีคะ จะแจ้งความจับไปเลย แต่คงสูญเงินแน่ๆ(เพราะถ้ามีเงินใช้คืน เค้าคงไม่คิดจะหนี) แล้วก็ต้องเสียค่าทนายขึ้นว่าความอีก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้เงินแน่หรือเปล่า กับ รอเค้าติดต่อกลับมา(เค้าบอกจะขอผ่อนผัน) แล้วร่างสัญญาใหม่ ซึ่งเค้าจะทยอยใช้คืนเงินให้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้เงินจริงหรือเปล่า ไม่ใช่ให้แค่เดือนเดียวแล้วหนีไปอีก และควรจะร่างสัญญากู้เงินอย่างไรดีคะที่บ้านก็ไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย แต่ด้านลูกหนี้ท่าทางจะมีความรู้ด้านกฎหมายดี ส่งตัวแทน(โทร)มาเจรจา ประมาณว่าถ้าไม่บีบเค้า เค้าก็จะทยอยให้ ถ้าไม่งั้นเค้าหนีไปก็ไม่ได้อะไรเลย ผมเรียนกฎหมายมา ผมว่าคุณมีแต่เสีย แจ้งความจับก็เท่านั้น มีบัตรประชาชนก็ประกันตัวออกมาได้ หลบไปซ่อนที่อื่นคุณก็หาตัวเค้าไม่เจอ อย่าหวังจะได้เงินก้อนใหญ่...ฯลฯ และพูดจาข่มขู่เรา(ซึ่งเป็นผู้หญิง) กับแม่เหลือเกิน ทั้งๆที่แม่ให้เพราะเชื่อใจกันและเราเป็นเจ้าหนี้แท้ๆ ตอนนี้เครียดกัน ทั้งบ้าน เพราะที่บ้านเป็นหนี้อยู่ 5ล้าน แม่ยังให้ใครมาโกงเอาไปอีก ล้านกว่า (แม่เรียนน้อย ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย/เอกสาร ตอนให้เค้ายืมเงินก็ไม่ยอมปรึกษาพ่อ) ตอนนี้พ่อกับแม่ทะเลาะกันบ้านแทบแตก พ่อพูดอย่างเดียว "จะผูกคอตาย" ขอคำแนะนำด้วยค่ะ นอนกันไม่หลับเลย
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ในขณะนี้ฐานะขงมารดาคุณเป็นผู้เสียหายในคดีจ่ายเช็คไม่มีเงิน ซึ่งเป็นคดีอาญา และสามารถแจ้งความให้ตำรวจจับมาดำเนินคดีอาญาเพื่อให้เขารับโทษจำคุกได้ หากไปทำสัญญากันใหม่เพื่อให้เขาทะยอยจ่ายเงิน ก็จะกลายเป็นคดีแพ่ง คุณจะอยู่ในฐานะเสียเปรียบยิ่งขึ้น