เรียน อาจารย์ที่เคารพ ค่ะ ดิฉันขอรบกวนถามปัญหาด้วยค่ะ คือเมือปี 39 ดิฉันซื้อบ้านกับโครงโครงการหนึ่ง ที่ภูเก็ต(ซึ่งในขณะนั้นแบ้งค์ ธ.อส.อนุมัติเงินกู้ให้ 4500,000)...ส่งไป1งวดหรือ 2 วงด จำไม่ได้แล้ว...ขณะนั้นเศรฐกิจไม่ดี..ก็เลยขาดส่งเป็นเวลานาน...ปี 40 แบงค์ฟ้อง จากนั้นก็เจรจา ว่าจะส่งต่อ..แต่แล้วก็ไม่ได้ส่งเพราะติดขัดเรื่องเงิน ประมาณปี 43 แบงค์มาพร้อมกับเจ้าพนักงานกรมบังคับคดี...ก็ยึดบ้านไป จากนั้นดิฉันก็ได้ย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น หลังจากนั้น ก็ไม่ได้ทราบว่าแบงค์ได้ขายทอดตลาดไปณ วันที่เท่าไหร่ ขายได้เป็นจำนวนกี่บาท และดิฉันก็ได้แจ้งย้ายออกจากบ้านหลังนั้นตั้งแต่ 25 มีนาคม 46 เวลาผ่านไป 3 ปี เมื่อวันที่ 28 ก.ค 49 ดิฉันได้รับแจ้งขอให้ชำระหนี้เพราะเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดไม่เพียงพอชำระหนี้ โดย ที่ทางสำนักงานกฏหมายแจ้งมาว่าดิฉันยังคงมีหนี้ค้างชำระเป็นเงิน 275,788.78 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 19 บาท ต่อปี นับแต่วันขายทอดตลาดจนถึงวันที่ชำระเสร็จ...ดิฉันก็ยังไม่ได้ติดต่อไปที่สำนักงานกฏหมายแห่งนี้ เพราะไม่รู้จะเจรจาอย่างไร เพราะไม่มี....และเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 49 ดิฉันได้รับ จดหมายแบบเดิม1 ฉบับแต่เปลี่ยนสำนักงานกฏหมาย ข้อความเหมือนเดิม...ปัจจุบันนี้ดิฉันทำงานเป็นมนุย์เงินเดือน เดือนล่ะ 9,850 บาท ยังไม่ได้หักประกันสังคมและเบี้ยกองทุนเลี้ยงชีพ...อยากถามอาจารย์ว่า ถ้าจะมาอายัดเงินเดือนจะทำได้เลยหรือเปล่า...เพราะตามกฏหมายใหม่
กรณีเงินเดือน ไม่เกิน 10,000 บาท ตามกม.ใหม่ หักไม่ได้ ...และตอนนี้ก็ไม่มีทรัพย์สินอะไร...อย่างนี้เค้าจะมีวิธีการจัดการกับเราอย่างไรค่ะ และเราจะได้รับหมายศาลอีกครั้งมั้ยค่ะ
และถ้าต้องไปศาลอีกครั้ง...ถ้าเจรจาจ่ายดิฉันคงมีปัญญาจ่ายให้ได้เดือนล่ะ 500 บาท เค้าจะยอมหรือเปล่าค่ะ รบกวนอาจราย์ช่วยตอบด้วยค่ะ ตอนนี้ร้อนใจมากค่ะ....
