เรียน อาจารย์มีชัย

           ดิฉันและสามีจดทะเบียนสมรสเมื่อปี 2525 มีบุตร 1 คน ปี 2527 บิดามารดาของสามีได้โอนที่ดิน ซึ่งมีบ้านของนาย ก. ตั้งอยู่หนึ่งหลัง ให้สามี โดยมีชื่อสามีปากาฏอยู่ในโฉนดแต่เพียงคนเดียว ปี 2528 สามีได้ซื้อบ้านของนาย ก. โดยใส่ชื่อสามีเป็นเจ้าของบ้าน ปี 2529 สามีได้อนุญาติให้นาย ข.ปลูกบ้านในที่ดินส่วนที่ยังว่างอยู่อีก 1 หลัง นาย ข. ขายฝากบ้านของนาย ข. ให้บิดาของสามี ต่อมาบ้านหลังที่สอง หลุดจากการฝากขายเป็นของบิดาสามีโดยการฟ้องศาล และอนุญาติให้ดิฉันมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านในทะเบียนบ้านหลังที่สอง และคัดชื่อนาย ข. ออกไปอยู่ทะเบียนบ้านกลาง ปี 2545 บิดาของสามีเสียชีวิต มารดาของสามีเป็นผุ้จัดการมรดก ส่วนดิฉันได้เปลี่ยนให้สามีเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้านหลังที่สอง ขอเรียนถามดังนี้ค่ะ

1.ที่ดินถือเป้นสินส่วนตัวของสามีใช่หรือไม่

2.บ้านหลังที่ 1 ถือเป็นสินส่วนตัวของสามีหรือสินสมรสค่ะ

3.บ้านหลังที่ 2 ถือเป็นมรดกของบิดาสามี(เสียชีวิตแล้ว) ซึ่งมารดาของสามีต้องจัดสรรใช่หรือไม่ค่ะ หากมารดาของสามีไม่จัดสรรให้ชัดเจน บ้านหลังที่ 2 นี้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของสามีด้วยวิธีใด

4.พอทราบว่าสามีย้ายไปรับราชการต่างจังหวัด และ ไม่ติดต่อกับทางบ้านเป็นเวลานานมาก นอกจากโอนเงินผ่านธนาคารเข้าบัญชีบุตรชายทุกเดือน พฤติกรรมเช่นนี้ถือแป็นเหตุสมัครใจแยกกันอยู่เพื่อฟ้องหย่าได้หรือไม่ 

5.1 กรณีพ่อแม่หย่าร้างกัน บุตรชายของดิฉัน ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วมีส่วนได้ในที่ดินและบ้าน 2 หลังดังกล่าวข้างต้นหรือไม่อย่างไร

5.2 หากไม่มีกรณีหย่า ดิฉันและบุตรชายจะมีส่วนในที่ดิน และบ้าน 2 หลังหรือไม่อย่างไร

ขอบพระคุณค่ะ

คุณจรัสพร

เรียน คุณจรัสพร

    1.ถูกต้อง

    2.เป็นสินสมรส

    3. ถ้าเขายกบ้านหลังที่ ๒ ให้คุณก่อนที่เขาจะเสียชีวิต บ้านนั้นก็เป็นสินส่วนตัวของคุณ

    4. ไม่เป็นการสมัครใจแยกกันอยู่ แต่อาจเป็นการจงใจละทิ้งอีกฝ่ายหนึ่ง

     5.1 สิทธิจะเกิดหรือไม่ จะรู้ก็ต่อเมื่อเจ้าของทรัพย์สินตาย ถ้าเขาทำพินัยกรรมยกให้บุตรหรือไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้เลย บุตรก็มีสิทธิ  แต่ถ้าเขายกให้คนอื่น ก็ไม่มีใครได้สิทธิ นอกจากคนที่เขายกให้ กรณีตาม 5.2 ก็เหมิอนกัน