ด้วยข้าพเจ้าทั้ง 51 ราย ได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะทำงานของคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร ในรูปแบบการจ้างตามปีงบประมาณโดยแต่ละคนมีอายุงานอยู่ในระหว่าง 1-10 ปี ได้รับผลกระทบจากคำสั่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ 2114/2549 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2549 สรุปสาระสำคัญตามคำสั่งว่า ในปีงบประมาณ 2550 ยังไม่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นการตั้งคณะทำงาน เพื่อปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่มีความจำเป็นที่จะตั้งตลอดปีงบประมาณ แต่จะตั้งชั่วระยะเวลาหนึ่ง คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2549 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2549 ส่งผลให้คณะทำงานทั้ง 51 คน ต้องสิ้นสภาพไป
ในการนี้ จึงใคร่ขอกราบเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงว่า การปฏิบัติหน้าที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา (1-10 ปี) ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือในกรณีที่ไม่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กล่าวคือ ในช่วงเวลาที่อายุของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง หรือกรณีที่มีการยุบสภาก็เป็นเหตุให้ไม่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เช่นกัน คณะทำงานทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถอุทิศเวลาให้กับราชการเป็นหลัก อยู่บนพื้นฐานของการทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตัว ไม่ว่าการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวจะได้รับการดูแลหรือได้รับสวัสดิการอื่นใด จากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ ทั้งนี้หมายความว่า การปฏิบัติหน้าที่ไม่มีวันหยุด วันลา หากมีความจำเป็นจะหยุดงานในวันใด จะถูกหักเงินเดือนเป็นรายวัน และถึงแม้ว่าค่าตอบแทนที่ได้รับ จะอยู่ในหมวดพัสดุมิได้อยู่ในหมวดของค่าจ้างรายเดือนปกติก็ตาม แต่การปฏิบัติหน้าที่ต่อกัน ระหว่างสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และคณะทำงานก็ไม่มีความแตกต่างจากลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการอื่นๆ ที่พึงจะได้รับสิทธิ์ขั้นพื้นฐานตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ประกอบกับในสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบันทุกคน ต่างถามหาคุณธรรมและจริยธรรมในการบริหารปกครองประเทศ จึงเป็นเหตุให้เข้าใจได้ว่า ไม่ใช่เพียงคุณธรรมและจริยธรรมของผู้บริหารประเทศเท่านั้น ควรจะรวมถึงผู้บริหารขององค์กรทุกองค์กรด้วย
ดังนั้น การที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีคำสั่งดังกล่าวประกอบกับคำชี้แจงที่ได้รับจากผู้บริหารที่เกี่ยวข้องกลับได้คำตอบว่า เนื่องจากการยึดอำนาจของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่งผลให้สภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง ไม่สามารถจ้างต่อไปได้ ทำให้ดูเหมือนว่าสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะไม่มีภารกิจอื่นใดที่จะมอบหมายให้คณะทำงานปฏิบัติต่อไป แต่จากสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้รับมอบหมายจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติให้รับผิดชอบงานของสมัชชาแห่งชาติและสภาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งโดยปกติสำนักกรรมาธิการจะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในส่วนของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญหรือคณะกรรมาธิการอื่นใดที่แต่งตั้งขึ้น ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบภาระหน้าที่ทั้งในอดีตและปัจจุบันนับว่าภาระหน้าที่ในช่วงที่เกิดวิกฤตของบ้านเมืองก็มีความสำคัญที่ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจฟันฝ่าไปให้ได้ ในส่วนนี้คณะทำงานทุกคนก็เตรียมความพร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุนภารกิจดังกล่าว เช่นกัน
ด้วยสาเหตุและที่มาของความไม่เป็นธรรมดังกล่าว คณะทำงานทุกคนก็ได้พยายามขอความเห็นใจและความเป็นธรรมจากผู้บริหารที่เกี่ยวข้องแล้วแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใครนอกจากท่านซึ่งเป็นประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเป็นผู้ปกครองโดยตรง อีกทั้งท่านยังเป็นบุคคลที่มีความเที่ยงธรรมเป็นที่ประจักษ์ และยังเป็นที่รักของเจ้าหน้าที่ทุกคน จึงใคร่ขอความเมตตาจากท่านให้พิจารณาตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากมีความเกี่ยวพันกับอนาคตและชีวิตความเป็นอยู่ของคณะทำงานทุกคน
จึงกราบเรียนมาเพื่อขอความเมตตา