ปัญหาหลังหย่า
ขอเรียนปรึกษาปัญหาทางด้านขอกฏหมายและวิธีแก้ไขค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่าสามีก่อนที่จะมาสมรสกันเคยมีครอบครัวมาก่อน มีบุตรชายที่เกิดจากภรรยาเก่า 1 คน ซึ่งภรรยาเก่าของสามีระหว่างที่สมรสอยู่กับสามีนั้นไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น สามีทราบเรื่องและให้อภัยโดยให้ขอแม้ว่าให้เลิกติดต่อกัน แต่ทั้งคู่ยังคงติดต่อและร่วมประเวณีกัน สามีจึงทำการหย่าขาดจากภรรยาเก่า ในระหว่างการหย่าขาดสามียังคงอยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับภรรยาเก่าและลูก โดยพักอาศัยอยู่กับญาติของฝ่ายหญิงเช่นเดิม โดยที่ญาติพี่น้องและพ่อแม่ของทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีใครทราบเรื่อง ระหว่างนั้นภรรยาเก่าได้ตั้งครรภ์กับผู้ชายคนนั้น และทั้ง 2 คนได้มาปรีกษาและขอร้องให้สามีซึ่งได้จดทะเบียนหย่ากันแล้วนั้น จดทะเบียนสมรสกลับและยอมรับลูกในครรภ์ ไม่เช่นนั้นคงต้องทำแท้งเอาบุตรออก สามีของดิฉันซึ่งในขณะนั้นเรายังไม่รู้จักกัน ได้เห็นแก่เด็กในครรภ์จึงได้จดทะเบียนสมรสและเมื่อเด็กคลอดจึงจดทะเบียนรับเป็นพ่อของเด็ก
ซึ่งในระหว่างนั้นภรรยาเก่าของสามีก็ยังคงไปมาหาสู่กับผู้ชายคนนั้น โดยที่สามีก็มิได้ว่ากล่าวแต่อย่างไรเนื่องจาก ถือว่าเป็นภรรยาแต่ในแง่ของกฏหมาย หลังจากนั้นประมาณ 4 ปี ดิฉันและสามีก็ได้เจอกัน สามีจึงตกลงหย่าขาดจากภรรยาเก่าและย้ายออกมาจากบ้านภรรยาเก่า
1.เพื่อให้ดิฉันรู้สึกสบายใจ
2.ลูกชายคนโตอายุ 12 สามารถดูแลตัวเองได้บ้างแล้ว
โดยสัญญาท้ายหย่าระบุ ให้บุตรทั้ง 2 อยู่ในความดูแลของภรรยาเก่า สินสมรสคือ รถเก๋งให้ตกเป็นของภรรยาเก่า, หุ้น จำนวน 8000 หุ้น ให้ภรรยาเก่า 5000 หุ้น โดยจะทำการโอนหุ้นให้ในชื่อของภรรยาเก่า (โดยในสัญญาระบุระยะเวลาโอนไว้ด้วย จำเดือนไม่ได้แต่ภายในปี 47), จ่ายเงินค่าเลี้ยงดูบุตรเป็นเงิน 15,000 ต่อเดือน ระบุทุกเดือนโอนให้ในบัญชีชื่อของภรรยาเก่า , เงินโบนัสของทุกปี 20% โอนเข้าบัญชีบุตรชาย
- ผิดที่หนึ่ง ตามสัญญาท้ายหย่าข้างต้น 6 เดือนแรกสามี ได้โอนเงินค่าเลี้ยงดูบุตร ให้ทุกเดือนตามจำนวน แต่ต่อมาภายหลังสามีมีรายได้ลดลงเนื่องจากเงินเบี้ยเลี้ยงจากการทำงานไม่มี (ย้ายกลับสำนักงานใหญ่) จึงโทรไปพูดคุยและทำการโอนให้ภรรยาเก่าทุกเดือนเป็นเงิน 10000 บาทจนถึงปัจจุบัน โดยที่มิได้ทำการเปลี่ยนแปลงสัญญาท้ายหย่า หรือร้องให้ศาลสั่ง
- ผิดที่สอง สามียังไม่ได้ทำการโอนหุ้นในจำนวนทั้งหมดให้ภรรยาเก่า เนื่องจากกลัวว่าภรรยาเก่าจะนำไปขายและเงินจะไม่ตกถึงลูก
- ผิดข้อที่สาม สามีไม่ได้ทำการโอนเงิน 20% ของเงินโบนัสประจำปีใส่ในบัญชีของบุตรชายเนื่องจากภรรยาเก่าได้โทรมาให้โอนเงินเข้าบัญชีตนเองเพื่อใช้ในการจ่ายค่าเทอมให้ลูก ซึ่งสามีได้ดำเนินการตามขอ
- ผิดข้อที่สึ่ เงินปันผลจากหุ้นซึ่งยังไม่ได้โอนให้ภรรยานั้น ในปีแรกสามีโอนให้ภรรยาเก่า เพื่อให้ใช่จ่ายเป็นเงินค่าเข้าโรงเรียนบุตรชาย (เริ่มมัธยม 1) แต่ในปีนี้นั้นสามีไม่ได้โอนให้เนื่องจากระหว่างที่ทำการจดทะเบียนสมรสกันอยู่นั้น มีหนึ้สินซื้งสามีได้ไปกู้สวัสดิการบริษัทให้ภรรยาคนเก่า (ซึ่งขณะนั้นยังอยู่รวมบ้านกัน และภรรยาเก่าได้ไปหาสามีผู้พฤตินัยไป ๆ มา ๆ ) มาประกอบกิจการ จำนวน 100,000 บาท และทุกเดือนทางบริษัทจะทำการหักเงินในยอดบัญชีเงินเดือนของสามี
- ผิดข้อที่ห้า สามียังไม่ได้โอนรถเป็นชื่อของภรรยาเก่า เนื่องจากภรรยาเก่าได้นำรถไปขายและให้ทางเต้นรถออกเช้คเป็นชื่อของสามี และให้สามีขึ้นเช้คให้ในนามของสามีและนำเงินไปให้เค้า โดยให้เหตุผลในการขายว่า ได้นำรถซึ่งเป็นสมบัติของผู้ชายคนนั้นมาใช้ และไม่อยากเก็บรถไว้เผื่อเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย และให้เสียมูลค่าของทรัพย์
ซึ่งในตอนนี้ภรรยาเก่าได้ให้สนง.ทนายความทำหนังสือเรียกให้ไปโอนหุ้น และจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูบุตรที่ขาดโอนทุกเดือน ๆ ละ 5000 เป็นเวลา 2 ปี และเงินปันผลหุ้นที่ยังไม่ได้ทำการโอนให้ มิเช่นนั้นจะทำการดำเนินการในเรื่องคดีต่อไป
จึงอยากขอเรียนถามว่า ในเหตุซึ่งได้กล่าวมาทั้งหมดนี้
1. สามีมีรายรับแตกต่างไปจากเดิม จึงทำการจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูบุตรให้ 10000 บาทต่อเดือน โดยที่ไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงสัญญาท้ายหย่า หรือให้ศาลเป็นผู้สั่งกรณีนี้ถ้าเป็นความทางเรามีสิทธิ์ได้เปรียบหรือไม่
2. อยากทำการจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูเฉพาะบุตรคนที่หนึ่งได้หรือไม่ ถ้าได้ต้องทำอย่างไร เนื่องจากบุตรคนที่สองมิใช่บุตรโดยให้กำเนิดโดยสามี และเด็กคนนี้มีพ่อผู้ให้กำเนิดเป็นผู้เลี้ยงดูอยู่แล้ว ปัจจุบันนี้เค้าทั้งสองอยู่ร่วมเป็นครอบครัวกันแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส
3. หุ้นนั้นเราสามารถป้องกันยังงัยให้ตกถึงเด็ก กลัวว่าถ้าโอนให้ในชื่อภรรยาเก่าแล้วจะนำไปขาย
4. เงินปันผลหุ้นของปีนี้ที่ยังไม่ได้ทำการโอนให้นั้น เราไม่ทำการโอนให้ได้หรือไม่
5. เราสามารถขอเป็นผู้ดูแลบุตรคนโตได้หรือไม่ ถ้าได้ต้องโอนหุ้นให้ภรรยาหรือไม่ เจตนาคืออยากให้ตกเป็นของบุตรคนโต
ตลอดระยะเวลาซึ่งสามีหย่าขาดจากภรรยาเก่า ภรรยาเก่าจะโทรมาขอเงินกับสามีดิฉันบ่อยมาก แต่ทางเราก็ไม่เคยให้เพิ่มเนื่องจากว่าเห็นว่าได้อยู่กินกับผู้ชายคนนั้นแล้ว ถึงแม้จะมิได้จดทะเบียนกันก็ตาม
ดิฉันสมรสกับสามีคนนี้หลังจากที่เค้าทำการหย่าขาดจากภรรยาเก่าแล้วประมาณ 9 เดือน |