กราบขอบพระคุณอาจารย์ที่ได้ตอบคำถาม อย่างรวดเร็ว คะ

ได้ไปเยี่ยมผู้ต้องหามาในวันที่ 9 ตุลาคม 2549  ทางตำรวจได้ให้สำเนาขอฝากขังในผลัดแรก และผลัดสามมาให้ 

1.  อ่านตามรายละเอียดในผลัดแรก จนท.ระบุว่าชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ  แต่ดิฉันได้ถามกับผู้ต้องหา ๆ บอกว่าตำรวจพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ และเค้าเองไม่เคย say yes เลย  เมื่อถึงในชั้นศาลสามารถร้องต่อท่านผู้พิพาษาได้หรือไม่คะว่าผู้ต้องหาบอกว่าไม่เคยได้ตอบรับสารภาพ แต่ตำรวจให้เซ็นต์กระดาษก็ไม่ทราบรายละเอียดในกระดาษว่าอะไร (เพราะเป็นภาษาไทย) ไม่มีใครแปลให้ฟัง ให้เซ็นต์ก็ต้องเซ็นต์ 

2.  ตำรวจบอกผู้ต้องหาว่าเมื่อถึงช้นศาลให้ say yes อย่างเดียวถ้าต้องการกลับบ้าน "want go home say yes to a judge" แต่ะเมื่อดิฉันได้ถามท่านผู้พากษาท่านได้กล่าวว่าถ้าจำเลยผิดก็ให้รับสารภาพโทษอาจลด แต่ไม่ผิดก็ต้องสู้คดีเพราะมูลค่าทรัพย์ที่ฟ้อง 3,500,000.- คงไม่สามารถให้ประกันตัวได้

3.  ผู้ตัองหาถามว่าที่ตำรวจพูดจริงไม๊ว่าให้รับสารภาพแล้วผมจะได้กลับบ้าน ดิฉันก็ได้บอกว่าถ้าคุณไม่ได้ทำผิดก็ไม่ต้องรับสารภาพ แต่ถ้าผิดก็รับ  ไม่ต้องเชื่อตำรวจเพราะได้สอบถามกัยท่านผู้พิพากษาแล้วว่ามูลค่าทรัพย์สูงคงไม่สามารถรอลงอาญา ปรับ และส่งกลับเมืองได้  ดังนั้นถ้าไม่ผิดก็ให้สู้คดี

4.  เมื่อครบผลัดสี่ (ในวันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม)  สำนวนไม่สามารถสรุปได้เสร็จ ผู้ต้องหาถูกปล่อยตัวอัตโนมัติ  แต่ passport และ visa ถูกตำรวจยึดไว้  สามารถร้องขอ passport และ visa คืนจากตำรวจได้หรือไม่คะ

5. ในศาลประจำจังหวัดการทำสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ต้องส่งให้ท่านอัยการพิจารณาก่อนหรือคะ สามารถส่งตรงให้กับทางท่านผู้พิพากษาได้เลยเหรอ

6  มีกำหนดนานแค่ไหน หากทาง จนท. ตำรวจไม่สามารถสรุปสำนวนได้แล้วเสร็จ แอจก่อให้เกิดการขาดอายุความในการยื่นฟ้อง

7.  การถูกปล่อย ให้อิสาระจากการควบคุมเมื่อครบ 48 วัน  ชาวต่างชาติทั้งสองสามารถเดินทางกลับบ้านตัวเองได้หรือไม่

กราบเรียนรบกวนอาจารย์อีกครั้งนะคะ และกราบขอบพระคุณอาจารย์มากคะ

.

เรียน นิดหน่อย

    คำถามทั้งหมดดูจะไม่สำคัญยิ่งไปกว่า การหาทนายความให้ไปช่วยเหลือ ถ้าจะช่วยเขาทั้งที ควรจะหาทนายควาให้เขาดีกว่า เผลอ ๆ ไปรับสารภาพตามที่ตำรวจแนะนำ ก็จะหมดทางแก้ไข

คดีที่เขาฟ้อง น่าจะเป็นเรื่องฉ้อโกง จึงขึ้นศาลแขวง