ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    018407 มรดกจากพ่อให้ลูก...แล้วแม่มีสิทธิ์แค่ไหน?หมาหัวเน่า...ลูกสาวคนครอบครัวคนจีน1 กันยายน 2549

    คำถาม
    มรดกจากพ่อให้ลูก...แล้วแม่มีสิทธิ์แค่ไหน?

    สวัสดีค่ะ

    คุณพ่อได้โอนที่ดินแปลงหนึ่งให้ดิฉัน ดิฉันได้นำไปสร้างหอพักนักศึกษาให้เช่า โดยใช้ชื่อพ่อเป็นทั้งผู้ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งหอพักและผู้จัดการหอพักฯ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการเสียภาษีที่ถูกกว่า ในการก่อสร้างนี้ ดิฉันนำเงินทุนมาลงเอง 2 ล้านบาท คุณพ่อกู้สหกรณ์ออมทรัพย์ให้อีก 5 ล้านบาท โดยใช้เงินฝากของคุณพ่อค้ำประกัน และไม่มีการกู้ร่วม (เงินในบัญชีของคุณพ่อมีประมาณ 5 ล้านกว่าบาท) ทางสหกรณ์ได้กำหนดไว้ว่า ต้องผ่อนชำระเป็นรายเดือน รวมระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 8 ปี คุณพ่อจะนำเงินรายได้จากหอพักฯ ส่วนหนึ่งไปชำระหนี้สหกรณ์ฯ ทุกเดือน (เกินครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด) ส่วนรายได้ที่เหลือให้ตกเป็นของดิฉัน

    เมื่อตอนต้นปีคุณพ่อได้ขายที่ดินแปลงหนึ่งไป ได้เงินมาประมาณ 2.5 ล้าน ดิฉันไม่ได้เห็น ไม่ได้รับเงินจำนวนนั้นเลย ทราบเท่าที่คุณพ่อเล่าให้ฟังว่า ให้แม่กับพี่ชายดิฉันยืมไป ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร เพียงแต่ตกลงกันด้วยวาจาว่าจะใช้คืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเป็นงวดๆ ละเท่าไหร่ดิฉันไม่ทราบ

    การผ่อนชำระดำเนินไปได้ 3 ปี คุณพ่อก็เสียชีวิตอย่างกระทันหัน ไม่มีพินัยกรรม ทางสหกรณ์ฯ แจ้งมาว่า คุณพ่อได้ชำระหนี้ไปแล้วประมาณ 2 ล้านบาท ยังเหลือที่ต้องจ่ายสหกรณ์ฯ อีกประมาณ 3 กว่าล้านบาท ดังนั้นทางสหกรณ์ฯ จะหักหนี้ที่เหลือ 3 ล้านบาทจากบัญชีเงินฝากของคุณพ่อ ส่วนที่เหลือ 2 ล้านบาทจะคืนให้ทายาท อันได้แก่ คุณแม่ (จดทะเบียน) พี่ชาย และดิฉันเอง (บรรลุนิติภาวะแล้วทั้งคู่)

    คุณแม่ได้บอกกับดิฉันภายหลังว่า เงินสหกรณ์นั้นส่วนหนึ่งเป็นของแม่ (เป็นเงินค่ากับข้าวที่คุณพ่อจ่ายให้คุณแม่ทุกเดือน ภายหลังไม่ทราบว่าด้วยเหตุใด คุณแม่ไม่รับเงินดังกล่าว แต่ให้คุณพ่อไปฝากสหกรณ์ฯ ให้แทน) คุณแม่จะบังคับให้ดิฉันเลือกว่า จะผ่อนหนี้ที่คุณแม่แทน เพราะถือว่าเงินนั้นเป็นของแม่ด้วย หรือจะรับชำระหนี้ต่อจากพ่อให้ครบ 8 ปี เพื่อให้ได้เงินจากบัญชีของพ่อมาเต็มจำนวน 5 ล้านบาท

    คำถามคือ

    1. ในฐานะผู้จัดการมรดก คุณแม่สามารถร้องต่อศาลให้บังคับให้ดิฉันจ่ายเงินให้คุณแม่ได้หรือไม่?  หรือคุณแม่สามารถหักส่วนแบ่งของดิฉันที่ได้จากบัญชีสหกรณ์ฯ ของคุณพ่อได้เลยหรือไม่?

    2. เพื่อให้ได้เงินจากบัญชีมาเต็มจำนวน 5 ล้านบาท โดยไม่ต้องหักหนี้ก่อน คุณแม่สามารถร้องต่อศาลให้บังคับให้ดิฉันรับภาระหนี้ของคุณพ่อต่อไปได้หรือไม่?

    3.  หากดิฉันจะเรียกร้องสิทธิ์ในเงิน 2.5 ล้านที่คุณพ่อได้มาจากการขายที่ดินก่อนเสียชีวิต จะทำได้หรือไม่?

    4. หอพักฯ นั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของดิฉันคนเดียว หรือคุณแม่กับพี่ชายมีส่วนด้วย?

    (รายละเอียดเพิ่มเติม: หอพักฯ ตั้งอยู่บนที่ดินที่เป็นชื่อดิฉัน มีเลขบ้านแล้ว ตั้งแต่ดำเนินกิจการมา ดิฉันเป็นคนจัดการงานหอพักฯ ทั้งหมด รวมทั้งการลงชื่อในสัญญาเช่า ก็ระบุว่าดิฉันเป็นเจ้าของ มีชื่อพ่อเป็น "ผู้ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งหอพัก" และ "ผู้จัดการหอพัก" เท่านั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบประวัติเพื่อเปลี่ยนชื่อ "ผู้ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งหอพัก" และ "ผู้จัดการหอพัก" จากชื่อคุณพ่อ มาเป็นชื่อดิฉัน)

    รบกวนด้วยค่ะ ตอนนี้คุณแม่เร่งรัดดิฉันมากเลย เนื่องจากว่า คุณแม่นำเงินเก็บส่วนตัวไปสร้างบ้านและซื้อรถให้พี่ชายเกือบหมด เงินจึงค่อนข้างขาดมือ ส่วนพี่ชายก็เป็นแต่ "จ่ายเงิน" เค้า "หาเงิน" ไม่ค่อยเก่ง เป็นหนี้คุณพ่อกับคุณแม่ และเป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่มากพอควร

    ดิฉันเองก็อยากจะช่วยเหลือคุณแม่อยู่ แต่เกรงว่าพี่ชายจะมาเอาไปอีก (คุณแม่หลงลูกชายคนโตเอามากๆ เลยค่ะ) และที่สำคัญ ทั้งตอนเริ่มลงทุนและตอนที่หอพักฯ อยู่ในภาวะจะเจ๊งไม่เจ๊งแหล่ ก็มีคุณพ่อกับดิฉันสองคนที่ช่วยกันประคับประคองไป คุณแม่กับพี่ชายไม่ได้มาช่วยเหลือด้วยเลย

    ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

    คำตอบ

    อ่านคำถามแล้วไม่ค่อยเข้าใจ  ได้แต่บอกหลักของกฎหมายให้ทราบ แล้วลองไปพิจารณาดูเองเถิด

         อันทรัพย์สินระหว่างสามีภรรยานั้น แยกเป็นสองส่วน ๆ หนึ่งเป็นสินส่วนตัวของแต่ละคน เมื่อตายจากกัน ส่วนของใครก็เป็นของคนนั้น  อีกส่วนหนึ่งเป็นสินสมรส (ซึ่งได้แก่ทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างสมรส ไม่ว่าใครจะเป็นคนหามาได้) เมื่อตายจากกันไปแล้ว สินสมรสนั้นก็จะถูกแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน ส่วนหนึ่งตกได้แก่คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนอีกส่วนหนึ่งเป็นมรดกของผู้ตายที่จะตกได้แก่ทายาทและคู่สมรส ถ้าไม่มีพินัยกรรมคู่สมรสและบุตรก็จะได้คนละส่วนเท่า ๆ กัน

         ผู้จัดการมรดกนั้น มีหน้าที่ในการรวบรวมทรัพย์สินของผู้ตายเพื่อนำไปแบ่งให้กับทายาทและคู่สมรส ตามสิทธิที่จะพึงมี ถ้าจำเป็นจะต้องฟ้องร้องใครที่เป็นลูกหนี้ ผู้จัดาการมรดกก็ย่อมมีอำนาจที่จะฟ้องได้

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    1 กันยายน 2549