รบกวนถามเพิ่มเติมต่อจาก 018260 ค่ะ
จากที่อาจารย์ ตอบคำถามข้อ สามว่า
" 3. การทำเช่นนั้นก็ไม่ได้ทำให้เจ้าหนี้ยอมปล่อยให้อีกคนหนึ่งหลุดพ้นไปจากหนี้ที่ผูกพันอยู่ ทางออกทางหนึ่งเท่าที่พอจะนึกออก ก็คือ ไปตกลงกับเจ้าหนี้ว่าบ้านนั้นเป็นของคุณคนเดียวโดยขอให้เขาถอนชื่อญาติคุณออกจากความเป็นเจ้าของ แต่ญาติคนนั้นจะยังยอมรับผิดในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วม หรือจะให้เปลี่ยนจากลูกหนี้ร่วมเป็นผู้ค้ำประกันก็ได้ ถ้าเจ้าหนี้ยอมก็อาจจะพอแก้ไขได้กระมัง"
ต้องการถามเพิ่มเติมว่า
1. บ้านที่กู้ร่วมกับญาติเป็นของ ธนาคาร อื่นที่ไม่ใช่ธนาคารเดียวกับที่ญาติเป็นหนี้อยู่ค่ะ ฉะนั้นเรา จะ ต้องไปตกลงกับแบงก์ไหนคะ
ขออธิบายเพิ่มเติมนะคะ
ดิฉันได้ไปกู้เงินซื้อบ้านร่วมกับญาติที่ธนาคาร A เนื่องจากตัวคนเดียวกู้ไม่ได้ ผ่อนมาแล้วประมาณ 1 ปีด้วยตัวดิฉันเองคนเดียว แต่ว่าญาติ ดิฉันเองก็มีบ้านและที่ดินของตนเองที่นำไปกู้เงินกับธนาคารเพื่อทำธุรกิจเหมือนกัน แต่เป็นธนาคาร B คนละธนาคารกับที่กู้บ้านร่วมกับดิฉันอยู่ ตอนนี้ญาติคิดเองว่า กิจการอาจจะไปไม่ไหวถึงขั้นอาจจะต้องถูกธนาคารฟ้องร้อง สมมุติว่าถ้าดิฉันเอาเงินก้อนหนึ่งไปให้ธนาคาร A เพื่อเอาชื่อญาติ ออกจากชื่อผู้กู้และเจ้าของบ้านให้เหลือชื่อดิฉันคนเดียว
2. แล้วต่อมาถ้า ญาติ โดนฟ้องจากธนาคาร B ศาลจะสามารถตามมาเอาผิดกับบ้านของดิฉันได้อีกหรือไม่คะ
3. หากสามารถเอาผิดได้ ดิฉันควรจะแก้ปัญหาอย่างไรดีคะ นอกจากขายบ้านนี้ทิ้งแล้วไปหาซื้อบ้านใหม่ก่อนด้วยชื่อตนเองคนเดียว เพราะว่าได้ทำการเชคแล้ว ดิฉันเพิ่งซื้อบ้านมาไม่ถึงปี ถึงจะทำการขายบ้านได้ ดิฉันต้องเสียค่าต่างๆมากมาย และยังต้องเสียภาษีเงินได้อีกเป็นจำนวนมาก เพราะบ้าน ราคาค่อนข้างสูงค่ะ ประมาณ 5 ล้านกว่า
4.ถ้าญาติโดนฟ้อง ทางศาลจะทำการตรวจดูทรัพย์สินที่โอนให้คนอื่นไปแล้ว หรือ ทำการขายไปแล้ว โดยดูย้อนหลังไป กี่ปี คะ
5. ต่อจากข้อ4, การที่ศาลดูย้อนหลัง จะดูโดยเริ่ม นับย้อนหลังไปจากวันที่ตัดสินว่า ล้มละลาย หรือ นับจากวันที่ ญาติเริ่มส่งเงินให้ธนาคารไม่ได้แล้วคะ
รบกวนด้วยค่ะ
ด้วยความเคารพอย่างสูง |