ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    018271 ผู้จัดการนิติบุคคลคือหุ้นส่วนของเจ้าของโครงการพ.ต.ท.บัญชาศิลป์ บุญมณี22 สิงหาคม 2549

    คำถาม
    ผู้จัดการนิติบุคคลคือหุ้นส่วนของเจ้าของโครงการ

    เรียน  อาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์  ที่เคารพ

    อาคารชุดที่ผมและสมาชิกผู้เป็นเจ้าของร่วม มีนิติบุคคลฯ ที่ตั้งขึ้นมาโดยกลุ่มผู้ขายอาคารชุดโครงการ 1 - 4 (รวม 16 ตึก)รวมกัน โดยผู้เป็นเจ้าของร่วมมิได้มีส่วนในการก่อตั้งในครั้งแรก  ผู้จัดการคือน้องสาวของผู้ทำโครงการ เข้ามาบริหารโดยแต่งตั้งตัวเอง และผูกขาดการบริหารงานนิติบุคคลเพราะเป็นบริษัทที่กลุ่มของผู้ขายโครงการตั้งขึ้นมา  ผลปรากฏว่า พวกผู้เป็นเจ้าของร่วม (4 โครงการรวม 3 พันกว่าห้อง) ไม่ได้มีส่วนรับรู้ ตรวจสอบ หรือมีการแต่งตั้งกรรมการนิติบุคคลที่มาจากผู้เป็นเจ้าของร่วม  มีเพียงตัวแทนประจำอาคารที่ส่วนใหญ่เป็นคนของผู้จัดการทั้งสิ้น  การทำบัญชีรายรับรายจ่ายขาดทุนมาตลอด 10 กว่าปี ทั้งที่เก็บเงินส่วนกลางได้เดือนละประมาณ 1.6 ล้านบาท แต่ก็ยังขาดทุนมาตลอด อีกทั้ง ผู้จัดการมีพฤติกรรมยักยอกนำเงินกองทุนที่หักจากผู้ซื้อห้องครั้งแรก ห้องละ 2 พันบาท ไปใช้ ส่วนห้องของพวกตนที่มีอยู่ประมาณ 700 - 800 ห้อง ยังไม่ได้มีการจ่ายเงินกองทุนห้องละ 2 พันบาท โดยอ้างว่าห้องติดหนี้ บบส. แต่ความจริงผู้จัดการนำห้องดังกล่าวไปเปิดให้เช่า หาเงินเข้าตนเอง แต่ใช้ใบเสร็จรับเงิน และพนักงานของนิติบุคคลที่ตนตั้งเป็นบริษัทขึ้นมา   ขอเรียนถามอาจารย์ดังนี้ครับ

    1. ผมและสมาชิกผู้เป็นเจ้าของร่วม มีหนช่องทางทางกฎหมายที่จะพึ่งศาลดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และยักยอกทรัพย์ ได้หรือไม่อย่างไร

    2. มีช่องทางดำเนินคดีอาญา ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าทนายได้หรือไม่ ถ้าจำเป็นต้องใช้ทนาย จะใช้ทนายช่องทางใดที่จะเสียค่าทนายในราคาไม่แพงจนเกินไป เพื่อจะได้ลงขันกันจ่ายครับ

    3. เจ้าพนักงานที่ดิน ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย พ.ร.บ.อาคารชุด จะช่วยเหลือพวกผมได้หรือไม่ เพราะดูแล้วน่าจะพึ่งลำบากน่ะครับ ขนาดไปติดต่อราชการขอดูชื่อเจ้าของห้องชุดเพื่อที่พวกเราจะได้ติดต่อกันได้ ยังไม่ยอมให้เลยครับของคำแนะนำส่วนนี้ว่ามีช่องทางใดที่จะทำให้พวกผมจะขอให้ทำการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้จัดการ และตรวจสอบบัญชี งบการเงินของนิติบุคคลได้หรือไม่ครับ

    4.ผมได้ยินมาว่าผู้จัดการพูดว่าเขาเป็นเจ้าของตึกจะทำอะไรก็ได้ เช่น ให้บริษัทโฆษณามาเช่าดาดฟ้าตึกทำโครงเหล็กขนาดใหญ่เพื่อติดป้ายขายโฆษณา เพื่อหาเงินมาเป็นรายได้นิติบุคคลโดยไม่ต้องขออนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของร่วมเพราะข้อบังคับที่พวกเขาเขียนขึ้นมาเองให้อำนาจผู้จัดการไว้แล้ว อีกทั้งข้อบังคับยังให้เขายังเป็นผู้จัดการตลอดชีพ อีกด้วยผมกับเพื่อนๆ จึงต้องการความเห็นทางกฎหมายจะได้มีช่องทางต่อสู้ได้อย่างถูกต้อง ไม่ตีความตามกฎหมายผิดพลาดน่ะครับ

    ขอขอบพระคุณอาจารย์อย่างสูงครับ ที่เสียสละเป็นผู้ให้วิทยาทานด้านกฎหมายเฉพาะด้านที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบอย่างจริงจัง  ผมขอความรู้ด้วยครับ จะได้นำไปอธิบายให้สมาชิกเจ้าของร่วมได้รู้ และเข้าใจอย่างถูกต้องต่อไปครับขอให้เว็บของอาจารย์อยู่เป็นที่พึ่งทางกฎหมายตลอดไปครับ

    คำตอบ

    เรียน พตท.บัญชาศิลป์

         1. อันนิติบุคคลนั้น เจ้าของร่วมต่างก็มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของนิติบุคคล การบริหารจัดการย่อมขึ้นอยู่กับที่ประชุมใหญ่ ดังนั้นหากต้องการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก็ไม่ต้องไปพึ่งศาลให้ยาก เพียงแต่รวมตัวกันให้ได้เสียงข้างมากแล้วดำเนินการเรียกประชุมใหญ่ แล้วลงคะแนนเอาตามที่ต้องการ ข้อสำคัญก่อนดำเนินการควรศึกษาข้อบังคับของนิติบุคคลเสียให้ละเอียด

        2. การจะรู้ว่าจะดำเนินคดีอาญากับเขาได้หรือไม่ ก็ต้องรู้ข้อเท็จจริงและรายละเอียด ถ้าไม่จ้างทนายความ ก็คงต้องลงไปศึกษากันเอง โดยอาศัยคนที่เป็นเจ้าของร่วมที่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย เพราะมิฉะนั้นก็จะไม่รู้ว่าการกระทำใดจะเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญา

        3. เป็นตำรวจทั้งทีน่าจะมีลู่ทางในการสืบว่าใครเป็นเจ้าของบ้าง

        4. ก็ต้องไปหาทนายความ ซึ่งก็คงมีค่าใช้จ่ายบ้าง ไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใด หากเจ้าของร่วมไม่สามารถรวมตัวกันได้ ก็ยากที่จะแก้ไขอะไร  อันที่จริงสภาพคอนโดที่เจ้าของต้องดูแลตามสิทธิและหน้าที่ของตนเองนั้น ไม่เหมาะกับนิสัยคนไทยเท่าไรนัก เพราะส่วนใหญ่มักจะบ่น แต่เมื่อถึงคราวจะต้องปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาสิทธิก็ไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจเท่าไรนัก จึงมักตกเป็นเหยื่อของคนที่ไม่สุจริตได้เสมอ

     

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    22 สิงหาคม 2549