ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    018260 ญาติกำลังจะเลิกกิจจการแล้วปล่อยให้แบงก์ยึด ทำอย่างไรดีคะผู้เยาว์วัย21 สิงหาคม 2549

    คำถาม
    ญาติกำลังจะเลิกกิจจการแล้วปล่อยให้แบงก์ยึด ทำอย่างไรดีคะ

    สวัสดีค่ะ

    มีเรื่องร้อนใจค่ะ หวังว่าจะคุณมีชัยจะช่วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

    ปัญหามีอยู่ว่า เพิ่งซื้อบ้านไว้ค่ะโดยได้ขอให้ญาติคนหนึ่งมาช่วยในการกู้ร่วมค่ะเพราะลำพังเงินเดือนของตัวเองไม่สามารถกู้ได้จำนวนที่ต้องการค่ะ แต่ ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเกือบปี ตัวดิฉันเองเป็นผู้ผ่อนแต่เพียงผู้เดียวค่ะ โดยที่ญาติคนนั้นมีเพียงชื่อกู้ร่วมและในโฉนดที่ดินเท่านั้น ปัญหามีอยู่ว่า ขณะนี้ญาติคนนั้นมีปัญหาหนี้สินรุมเร้า โดยที่เค้าทำกิจการส่วนตัวค่ะ โดยเอาบ้านที่ทำการค้าและที่ดินอื่นๆของตัวเค้าเองมาเข้า ขอ OD กับแบงก์ค่ะ ซึ่งทรัพย์สินของเค้าได้ OD แบงก์มา ประมาณ 15 ล้าน เค้า ก็เอาเงินออกมาจนเต็มวงเงิน แต่เค้าไม่สามารถรับภาระนี้ได้แล้วค่ะ การค้าพอไปได้ แต่ว่าต้องส่งเงินให้แบงก์เดือนละ สามแสนบาท ซึ่งญาติคนนี้เค้าก้อไม่ไหวแล้วค่ะ เค้าเลยคิดว่าจะล้มเลิกกิจการแล้ว ปล่อยให้แบงก์ยึดทรัพย์สินส่วนของเค้า แต่ปัญหาคือ เค้ามีชื่ออยู่ที่บ้านหลังนี้ของดิฉันด้วยค่ะ ซึ่งดิฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ตัวญาติคนนี้ เค้าก็ไม่อยากให้ดิฉันลำบาก ไปด้วย

    ดิฉันรบกวนสอบถามเป็นข้อๆ ดังนี้ค่ะ

    1. คุณมีชัยมีข้อเสนอแนะ ให้ญาติดิฉันคนนี้ไม๊คะว่า ควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ควรจะเลิกกิจการให้ แบงก์ยึด หรือว่าคุยกับแบงก์อย่างไรดีคะ

    2. จากการอ่านในคำถาม-คำตอบในเวปไซด์นี้ ทำให้ทราบว่า บ้านดิฉันหลังนี้ก็คงจะโดนแบงก์ยึด ครึ่งหนึ่งด้วยใช่ไหมคะ ถ้าใช่ เราจะยืนยันกับแบงก์หรือศาลได้ไหมคะว่า บ้านหลังนี้ดิฉันเป็นคนผ่อนเอง โดยใช้ชื่อญาติคนนี้เป็นผู้กู้ร่วมเท่านั้น

    3. ด้วยความสัจ จริงแล้ว ดิฉันตั้งใจว่าจะให้แฟนดิฉันหาเงินให้ดิฉันก้อนหนึ่ง เพื่อเอาชื่อญาติคนนี้ออก เพื่อดิฉันจะทำการกู้เป็นชื่อดิฉันเพียงคนเดียว เนื่องจากดิฉันจะสามารถใช้สวัสดิการพนักงานของบริษัท ในเรื่องการผ่อนบ้านค่ะ แต่มาประจวบเหมาะกับการที่ญาติดิฉันอยากจะล้มเลิกกิจการอยู่พอดี ถ้าดิฉันทำเช่นนี้ จะถือว่าเป็นการโอนย้ายทรัพย์สินแบบ ไม่สุจริต หรือป่าวคะ

    4. ดิฉันควรขายบ้านหลังใหม่ของดิฉันหลังนี้ หรือป่าวคะ เพราะทุกวันนี้ กลุ้มใจเป็นอย่างมากว่า ถ้าผ่อนบ้านหลังนี้ต่อหรือทำอะไรเกี่ยวกับบ้านต่อไป ก้อมีสิทธิ์ที่จะถูกยึดได้ ทำให้ไม่มีกำลังใจในการทำงานเพื่อผ่อนบ้านเลยค่ะ ถึงจะขายบ้านก้อขาดทุน ไม่อยากขายเลยค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะหาทางออกอย่างไรดี เพื่อให้บ้านหลังนี้คงอยู่เพราะ บ้านนี้เป็นทรัพย์สินแรกที่ตั้งใจซื้อค่ะ และก็ไม่มั่นใจเลยว่า ญาติคนนี้จะทำกิจการของเค้าไปได้อีกนานสักแค่ไหน

    5. หนี้สินที่ญาติคนนี้มีประมาณ 15 ล้านค่ะ แต่ถ้าหักลับกับทรัพย์สินที่เค้ามี ก้อคงจะพอๆกัน ถ้าเหตุการณ์ประมาณนี้ ศาลจะสั่งฟ้องล้มละลายไม๊คะ แล้วถ้าแบงก์ส่งฟ้องศาล ระยะดำเนินการจากวันนี้ ถึงวันที่ศาลตัดสิน จะใช้เวลา กี่ปี คะ

    สุดท้ายนี้อยากจะรบกวนคุณมีชัยช่วยกรุณาตอบคำถาม และให้คำแนะนำหน่อยนะคะ ทุกวันนี้ดิฉันกลุ้มใจมาก ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร รบกวนด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

    ด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ

    คำตอบ

      1. เรื่องราวของเขาเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ แล้วจะไปแนะนำอะไรเขาได้ล่ะ

      2. คงเป็นการยากที่จะนำสืบหักล้างเอกสารที่ทำไว้

       3. การทำเช่นนั้นก็ไม่ได้ทำให้เจ้าหนี้ยอมปล่อยให้อีกคนหนึ่งหลุดพ้นไปจากหนี้ที่ผูกพันอยู่  ทางออกทางหนึ่งเท่าที่พอจะนึกออก ก็คือ ไปตกลงกับเจ้าหนี้ว่าบ้านนั้นเป็นของคุณคนเดียวโดยขอให้เขาถอนชื่อญาติคุณออกจากความเป็นเจ้าของ แต่ญาติคนนั้นจะยังยอมรับผิดในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วม หรือจะให้เปลี่ยนจากลูกหนี้ร่วมเป็นผู้ค้ำประกันก็ได้  ถ้าเจ้าหนี้ยอมก็อาจจะพอแก้ไขได้กระมัง

       4. ถ้าขายได้ราคาก็อาจขายได้จะได้ชำระหนี้ที่ค้างส่วนที่เหลือก็ค่อยไปดาวน์บ้านหลังใหม่ เพราะถ้าแก้ไขอย่างข้อ ๓ ไม่ได้ ถึงเวลาที่ญาติล้มละลาย ก็คงต้องถูกขายอยู่ดี  แต่ถ้าขายตอนนั้นคุณจะได้เงินเพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งหนึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์คงยึดเอาไปชำระหนี้ของญาติ หรือถ้ามีเงินเพียงพอก็เก็บไว้ รอจนเมื่อมีการขายทอดตลาดคุณก็เข้าซื้อครึ่งที่เป็นของญาติ ก็อาจจะใช้เงินน้อยลงหน่อยและราคาอาจจะถูกลงก็ได้

       5. ถ้าไม่มีปัญหายุ่งยาก ก็อาจจะประมาณ 1-2 ปี


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    21 สิงหาคม 2549