เรียนอาจารย์ มีชัย ที่เคารพค่ะ
ดิฉันขอเรียนถามต่อจาก กระทู้ 018206นะค่ะ
1. วันทำสัญญากับผู้จะซื้อ ดิฉันได้เซนต์สัญญาจะซื้อจะขายไป 2 ฉบับและ สัญญาเงินกู้อีก 2 ฉบับ แต่ทางผู้จะซื้อไม่ได้ให้ดิฉันไว้เลยสักฉบับ ในวันที่หัวหน้าใหญ่นัดไกล่เกลี่ยกัน ฝ่ายผู้จะซื้อได้เอาสัญญาที่มีการปลอมแปลงแก้ไขขึ้นมาใช้ในการไกล่เกลี่ย แต่ดิฉันเอาผิดเขาไม่ได้เพราะ ไม่มีหลักฐานอะไรนอกจากความมั่นใจเกินร้อยที่เชื่อมั่นว่าเขาแก้ไขสัญญา ดิฉันอยากได้สัญญาตัวจริงมาเปรียบเทียบกันค่ะ ดิฉันต้องการหลักฐานที่เป็นเอกสารเพื่อที่จะแจ้งให้ฝ่ายผู้จะซื้อทราบว่าดิฉันมีหลักฐานสามารถ เอาผิดเขาในข้อหาปลอมแปลงเอกสารได้ อยากจะให้เขาหันหน้ามาปฏิบัติตามสัญญากันดีๆ เพราะไหนๆก็ทำงานที่เดียวกัน และเขาก็มีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้างานดิฉันด้วย ไม่ไช่จะเอาแต่ขี้โกงเห็นแก่ได้แบบนี้ ดิฉันเคยไปที่ สถานีตำรวจ แจ้งกับสารวัตรตำรวจ ท่านบอกว่า ถ้ากรณีเรามั่นใจ ทางตำรวจก็สามารถเรียกตัวคู่กรณีมาได้ แต่นั่นหมายถึงว่าดิฉันต้องแจ้งความกับเขาก่อน และ คดีนี้ก็เป็นคดีอาญาด้วย ดิฉันไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นค่ะ ดิฉันไม่ต้องการให้มีเรื่องมีราวกันเกิดขึ้นแบบนั้น ในกรณีนี้ดิฉันสามารถร้องเรียนไปที่คณะกรรมคุ้มครองผู้บริโภคได้หรือไม่ค่ะ มีค่าใช้จ่ายหรือไม่เท่าไหรค่ะ
2. ถ้้าในกรณีที่ร้องเรียนได้ ฝ่ายผู้จะซื้อ สามารถที่จะปฏิเสธเรื่องการไม่คืนสัญญาให้กับดิฉันได้หรือไม่ค่ะ แล้วเขาจะมีความผิดหรือไม่ถ้าไม่คืนสัญญามา และดิฉันควรทำอย่างไรต่อไปถึงจะได้สัญญาตัวจริงของดิฉันคืนมาค่ะ
3. ถ้าในกรณีที่ร้องเรียนได้ และฝ่ายผู้จะซื้อคืนสัญญาให้กับดิฉันแล้ว คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จะมีข้อแม้ว่าไม่ให้เอาผิดกับคุ่กรณีหรือไม่ค่ะ ดิฉันหมายถึงว่า ได้สัญญาแ้ล้วแต่มีข้อแม้ว่า ห้ามเอาสัญญาไปใช้ในการฟ้องร้องดำเนินคดีกันนะค่ะ มีแบบนี้ด้วยหรือเปล่าค่ะ
ขอบพระคุณท่านอาจารย์มากค่ะ ที่กรุณา
Epoxy
เรียน expoxy
1. การร้องเรียนกับคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากค่ากระดาษและแสตมป์ไปรษณีย์ แต่เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องระหว่างบุคคล ต่อบุคคล คงไม่อยู่ในขอบเขตของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค