เรียน อาจารย์ มีชัย

กราบขอบพระคุณอาจารย์มีชัยมากค่ะที่อนุเคราะห์ลงกระทู้ให้  อ่านแล้วอย่าเพิ่งเหนื่อยก่อนนะคะ  ดิฉันขออนุญาติเพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับสัญญาว่าจ้างอีกสักนิดนะคะ  เพราะหากไม่ได้บอกรายละเอียด อาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดคิดว่าผู้ว่าจ้างเอารัดเอาเปรียบผู้รับจ้าง

สัญญาว่าจ้างที่ทำไว้มีดังนี้ค่ะ 

งวดที่ 1 จ่ายเมื่อ”ผู้รับจ้าง”เซ็นสัญญาก่อสร้างแล้วเสร็จ จ่าย 15% เป็นเงิน 510,000.- บาท

งวดที่ 2 จ่ายเมื่อ”ผู้รับจ้าง”ทำการTestดิน ตอกเสาเข็ม หล่อฐานราก หล่อเสาตอม่อ แล้วเสร็จ จ่าย  15% เป็นเงิน 510,000.- บาท

งวดที่ 3 จ่ายเมื่อ”ผู้รับจ้าง”ทำการหล่อคานคอดิน หล่อเสา แล้วเสร็จ จ่าย 10% เป็นเงิน 340,000.- บาท

งวดที่ 4 จ่ายเมื่อ”ผู้รับจ้าง”ทำการหล่อคานชั้น 2 พื้นชั้น 2 หล่อเสาชั้น 2  แล้วเสร็จ จ่าย10% เป็นเงิน 340,000.- บาท

งวดที่ 5 จ่ายเมื่อ”ผู้รับจ้าง”หล่อคานรับหลังคา ติดตั้งโครงหลังคา แล้วเสร็จ จ่าย 10% เป็นเงิน 510,000.- บาท

งวดที่ 6 จ่ายเมื่อ”ผู้รับจ้าง”ทำการก่ออิฐ ฉาบปูน เทพื้นชั้นล่าง แล้วเสร็จ จ่าย 10% เป็นเงิน 340,000.- บาท

งวดที่ 7 จ่ายเมื่อ”ผู้รับจ้าง”ทำการเดินระบบไฟฟ้าภายใน ติดตั้งฝ้าเพดาน เดินระบบประปา ติดตั้งถังบำบัด  แล้วเสร็จ จ่าย 10% เป็นเงิน 340,000.- บาท

งวดที่ 8 จ่ายเมื่อ”ผู้รับจ้าง”ทำการติดตั้งบัวปูนปั้นต่างๆ ทาสี เคลียร์พื้นที่ แล้วเสร็จ จ่าย 15% เป็นเงิน 510,000.- บาท รวมเงินทั้งสิ้น 3.4 ล้านบาท

ก่อนเซ็นต์สัญญา เจ้าของบริษัทรับเหมาถามว่าต้องการส่วนลดเท่าไหร่ ดิฉันตอบไปว่าไม่ต้องการส่วนลดใดๆทั้งสิ้น แต่ขอให้บริษัทเอาใจใส่ดูแลให้งานก่อสร้างเป็นไปตามแบบแปลน  ใช้วัสดุก่อสร้างให้ได้มาตรฐานตามแบบกำหนด วันที่ทำสัญญาคือวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2549 บริษัทรับเงินแล้วบอกว่าจะเข้ามาปรับพื้นที่ในวันที่ 1 มีนาคม 2549 แต่เข้ามาปรับพื้นที่ทำจริงๆเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2549  วันนั้นบริษัทเอารถแม็คโครมาปรับพื้นที่ทำผัง บริษัทแจ้งว่าลืมคิดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ขอให้เจ้าของบ้านช่วยจ่ายนอกเหนือสัญญา เป็นเงิน 35,000 บาท ดิฉันก็ไม่ว่าตำหนิอะไร ยินดีช่วยในค่าใช้จ่ายส่วนนี้ โดยจ่ายรวมกับเงินงวดที่ 2  สาเหตุที่เกิดปัญหาขึ้น ณ วันนี้ เหตุเพราะบริษัทรับเหมาก่อสร้างไม่เข้ามาดูแลเอาใจใส่งาน ปล่อยให้โฟร์แมนขี้เกียจอยู่หน้างาน คนงานกับผู้รับเหมาย่อยทำงานกันเอง ทำถูกมั่งผิดมั่ง วันเทปูนคานชั้น 2 โฟร์แมนก็นั่งดูทีวีที่แค้มป์ ดิฉันต้องเข้าไปคุมงานเอง ก็พยายามบอกให้คนงานเอาเครื่องวายจี้ปูนทุกๆคานที่เท แถมลงมือช่วยคนงานปาดปูนหน้าคาน อีก เพราะคนงานมีไม่กี่คนทำไม่ทัน ปูนจะแห้งเสียก่อน ส่วนคนขับเครนก็ไม่ค่อยมีประสบการณ ส่งถังปูนไปกระแทกกับแบบคานที่กำลังจะเทปูน ทำเอาตัวอาคารโยกเยกไปมาถึง 2 ครั้ง งานก่ออิฐก็ก่อผิด ก่อปิดประตู ห้องนอน 2 ห้อง ไม่มีประตูเข้าออก  ดิฉันต้องสั่งรื้อแล้วก่อใหม่ เจ้าของบริษัทจะเข้ามาก็ต่อเมื่อรู้ว่างวดงานใกล้จะเสร็จ ที่เข้ามาก็เข้ามาถ่ายรูปเพื่อทำเรื่องขอเบิกงวดเงิน ไม่แคร์ว่างานจะดีหรือไม่ดี ไม่แคร์ว่าคนงานจะอยู่กินอย่างไร เบิกงวดได้ก็หายไป เห็นมาอีกทีก็เมื่อถึงวันจะเบิกงวดอีก เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2549 แล้วค่ะ  งานระบบไฟฟ้า ดิฉันแจ้งให้บริษัทรับเหมารีบดำเนินการไปพร้อมก่อนก่ออิฐ เพราะระบบไฟฟ้าทำแบบฝังท่อในกำแพง แต่บริษัทก็บ่ายเบี่ยงว่างานระบบไฟฟ้าอยู่ในงวดที่ 7 จะทำหลังจากก่ออิฐฉาบปูนแล้วเสร็จ โดยใช้วิธีผ่าปูนฝังท่อแล้วค่อยฉาบใหม่ ถ้าเจ้าของบ้านจะทำไปพร้อมก่อนก่ออิฐ ก็ให้จ้างช่างไฟฟ้าเข้ามาทำเอง งานเสร็จเมื่อไหร่จะเข้ามาเบิกงวด (ฟังแล้วน่าเจ็บใจจริงๆ) เหมือนกับงวดงานที่ 4 ที่จ่ายไปแล้ว  งานแล้วเสร็จเพราะดิฉันซื้อไม้แบบ เหล็กเส้น เหล็กข้ออ้อย บริษัทฯบอกว่าขาดสภาพคร่องในการเงินทั้งๆที่ตามสัญญาดิฉันจ่าย Advance ไปก่อนแล้ว เวลานี้เหนื่อยมากค่ะ เหนื่อยกับบริษัทรับเหมารายนี้เหลือเกิน พูดแต่เรื่องเงินอย่างเดียว ขณะนี้ไม่มีคนของบริษัทอยู่หน้างาน ส่วนโฟร์แมนบริษัทก็ไม่เข้ามาทำงาน 12 วันแล้ว ดิฉันได้แจ้งทาง consult ไว้แล้วว่าดิฉันไม่ไว้วางใจบริษัทรับเหมารายนี้เข้ามาทำงานก่อสร้างอีกต่อไป    ที่ผ่านมาบริษัทรับเหมาทำอะไรไว้ถึงไหน ก็ให้เข้ามาเคลียร์เงิน  หักลบกันเหลือเท่าไหร่ บวกกำไรไป 10% ดิฉันยินดีจ่ายให้ทันที  เมื่อคืน consult ของดิฉันโทรมาแจ้งว่า บริษัทรับเหมาเสนอจะจ่ายเงินให้ consult จำนวน 50,000 บาท ถ้า consult ช่วยเกลี้ยกล่อมให้เจ้าของบ้านว่าจ้างบริษัทเข้ามาทำงานต่อและอนุมัติให้งานผ่าน 100%ในงวดที่ 5-6  ทั้งๆงานก่ออิฐก็ยังไม่เสร็จ งานโครงหลังคาก็ยังไม่เสร็จ หลังคาระเบียงหน้าบ้านก็ยังไม่ได้ทำ หลังคาหน้าบ้านตรงที่จอดรถก็ยังไม่ได้ทำ คานรับหลังคาโรงรถก็ไม่ได้ทำ เสาที่ร้าวอยู่ตอนนี้ ประสานงานกับ consult แล้ว ตกลงทางดิฉันต้องเข้ามาแก้ไขเอง เพราะแจ้งบริษัทให้แก้ไขตั้งแต่เดือนพฤษภาคมแล้วแต่ก็ยังเพิกเฉย  ตัวดิฉันเองก็ยินดีจ่ายส่วนที่ทำจริงไม่เอารัดเอาเปรียบบริษัท และก็ไม่ต้องการให้บริษัทมาเอาเปรียบอีกต่อไปแล้ว ดิฉันอยากให้เรื่องราวจบๆกับบริษัทรับเหมานี้ไปด้วยดี ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้ใคร แต่ไปๆมาๆดูเหมือนว่า ซักจะไปกันใหญ่  เพราะบริษัทบอกว่าจะขายสัญญาว่าจ้างงานก่อสร้างคืนให้เจ้าของบ้านในราคา 1.1 ล้านบาท  อาจารย์มีชัยกรุณาช่วยแนะนำหาทางออกให้ดิฉันบ้างเถอะนะคะ  ดิฉันขอขอบพระคุณล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ค่ะ

Best regards,

sunitee

เรียน คุณสุนิธี

     ทางที่ดีควรปรึกษากับทนายความเพื่อให้บอกเลิกสัญญา แล้วหาคนมาทำงานใหม่ดีกว่าที่จะปล่อยไปแล้วต้องไปนอนรอว่าเมื่อไรจะแล้วเสร็จ และถึงเสร็จก็ต้องนอนสะดุ้งว่าบ้านจะพังหรือไม่  ที่ต้องให้ปรึกษากับทนายความก็เพราะ ท่าทางผู้รับเหมาคงเกเรไม่น้อย จึงควรเตรียมการให้รอบคอบในการบอกเลิกสัญญา จะได้ไม่เป็นปัญหาในภายหลังในเวลาที่เกิดการฟ้องร้องกันขึ้น