ปลอมแปลงสัญญาเงินกู้
เรียนถามอาจารย์มีชัยค่ะ
ดิฉันได้ไ้ด้ตกลงขายคอนโด ให้กับ เืพื่อนร่วมงานของดิูฉัน (โดยเขามีตำแหน่งสูงกว่าดิฉันและเป็นหัวหน้างาน)ในราคาเงินสด 380000 บาท แต่เมื่อถึงเวลาจ่ายเงินเขาให้ดิฉัน ได้แค่ 1 แสนบาทโดยบอกว่าส่วนที่เหลือจะทยอยให้ (หรือถ้าดิฉันเดือนร้อนเมื่อไหรให้ไปบอก แต่ทุกครั้งที่ดิฉันร้องขอไปไม่เคยได้) วันรับเงินเขาให้ดิฉันเซนต์สัญญาจะซื้อจะขาย 2 ฉบับในสัญญาจะซื้อจะขายไม่มีระบุจำนวนเงินวางมัดจำ และไม่มีกำหนดเวลาโอน แต่เงิน 1 แสนบาทนั้นกลับกลายเป็นเงินกู้ เพราะเขาให้ดิฉันเซนต์สัญญาเงินกู้อีก 2 ฉบับ โดยระบุ อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 5 ต่อเดือน และัมีระบุว่าดิฉันได้เอาโฉนดคอนโดมาค้ำประกันไว้ด้วย (ซึ่งความเป็นจริงคอนโดยังติดจำนองกับธนาคารอยู่ ดิฉันไม่สามารถเอาโฉนดมาได้อยู่แล้ว) ในสัญญาเงินกู้ระบุว่าถ้าดิฉันไม่สามารถโอนคอนโดให้เขาได้ภายในเดือน มิถุนายน 49 โดยดิฉันเป็นคนผิดดิฉันต้องจ่ายเงินต้นเขาคืนพร้อมดอกเบี้ย แตุ่้ถ้าดิฉันโอนไม่ได้เพราะฝ่ายผู้ซื้อเป็นคนผิด ดิฉันก็คืนแค่เงินต้น เท่านั้น แต่หลังจากที่เซนต์สัญญาไปแล้ว เขาไม่ให้สัญญาดิฉันเก็บไว้เลยสักฉบับ
คำถามนะค่ะ
1 ฝ่ายผู้จะซื้อ ไม่ยอมให้สัญญา แม้วันนัดกันไปโอนที่กรมที่ดิน ดิฉันถามหาสัญญาเงินกู้ คืน เขาบอกไม่ไ่ช่ประเด็น วันนี้มาโอนต้องทำการโอนถ้าโอนไม่ได้เขาจะถือว่าดิฉันเป็นคนผิดสัญญา เขาจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากดิฉันเป็นเงิน 8 หมื่นบาท ไม่รวม 1 แสนบาทที่เขาวางมัดจำไว้ สรุปคือดิฉันไม่กล้าโอนให้เขาเพราะกลัวเรื่องที่เขาจะเอาสัญญาเงินกู้ไปฟ้องร้องอีกเลยไม่โอน แบบนี้ถือว่าดิฉันผิดสัญญาหรือไม่ค่ะ และเขาให้ดิฉันเข้าไปหาเจ้าหน้าที่กรมที่ดินด้วยกัน ตกลงจะทำสัญญากันใหม่ ดิฉันบอกว่าให้เอาสัญญาเก่าเพียงแต่ต่อท้ายสัญญาจะซื้อจะขายกันไปใหม่ ว่าจะโอนกันให้เสร็จเมื่อไหร่ แต่ฝ่ายเขาไม่ได้เอาสัญญาตัวจริงไปด้วยเลยไม่ได้ทำสัญญากันใหม่ และ เกิดการทะเลาะกัน ดิฉันผิดสัญญาหรือไม่ค่ะ
2. หัวหน้าใหญ่เรียกคุยเพื่อนไกล่เกลี่ยกัน แต่เขากลับเอาัสัญญาเงินกู้ที่มีการแก้ไข ในหัวข้อที่ว่า ถ้าดิฉันโอนคอนโดให้เขาไม่ไ้ด้ ภายใน มิถุนายน 49 ดิฉันต้องคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 บาทต่อเดือนคืนให้กับเขาภายใน เดือน กรกฏาคม 49 เขาแก้ไขสัญญาค่ะ ดิฉันมั่นใจเกินร้อยเปอร์เซนต์ เขาแก้ไขสัญญาเงินกู้โดยทำขึ้นมาใหม่ให้สัญญาเงินกู้กับสัญญาจะซื้อจะขายแยกกันโดยสิ้นเชิงไม่ให้มีข้อความใดเกี่ยวข้องกับคอนโดเลย จุดประสงค์ของดิฉันคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเขาต้องการคอนโดค่ะ เขาไม่ต้องการให้ดิฉันคืนเงินเขาเพราะเจตนาเขาต้องการได้คอนโดในราคา 380000 บาทมาตั้งแต่แรกแล้ว แบบนี้ ถือว่าเขาผิดข้อหาอะไรหรือเปล่าค่ะเพราะดิฉันไม่มีหลังฐานอะไรเลยนอกจากความมั่นใจเกินร้อยของดิฉัน และ ดิฉันต้องใช้สิ่งหนี้แก้ต่างที่ศาลได้หรือไม่ค่ะ หรือว่า ดิฉันควรจะไปแจ้งความไว้ด้วยเพื่อเป็นหลักฐาน แล้วเขาจะโดนข้อหาอะไรแบบไหนค่ะ
3. ถ้ามีการฟ้องร้องกันดิฉันมีโอกาสจะชนะหรือไม่ค่ะ คำว่าชนะในที่นี้คืออะไร แค่ไหนค่ะ ศาลจะยกฟ้อง หรือไม่ก็ ดิฉันไม่ต้องโอนคอนโดให้กับคนขี้โกงในราคา 380000 บาท หรือเปล่่าค่ะ หรือถ้าดิฉันแพ้ดิฉันต้องเสียอะไรบ้าง ดิฉันควรจะทำอย่างไหรดี
4.ตอนนี้ไม่มีเงินใช้เลยค่ะ ตั้งใจขายคอนโด เพราะ ต้องการเอาเงินไปใช้หนี้บัตรเครดิต ที่เหลืออีกไม่กี่งวดก็หมดแล้วพอมาเจอปัญหาแบบนี้ บัตรเครดิตก็ไม่มีจ่าย ต้องติด blacklist แบบนี้ในฐานะจำเลยสามารถเรียกค้าเสียหายเขาคืนได้บ้างหรือเปล่าค่ะ หรือว่าต้องเป็นฝ่ายฟ้องเขาเท่านั้น
ขอบคุณค่ะ |