กราบเรียนท่านอาจารย์ที่เคารพ

เนื่องจากมีคุณลุงกับคุณป้าคู่หนึ่งขายของอยู่ริมฟุตบาทเพื่อส่งเงินกู้ที่ดินจากธนาคารมากกว่าสิบปีแล้ว ซึ่งตอนแรกที่ซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านนั้นคุณลุงกู้ธนาคารไม่ผ่านจึงไปขอให้เพื่อนบ้านที่สนิทกันมากู้ร่วม โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณลุงเป็นผู้ส่งเงินให้ธนาคารแต่ผู้เพียงผู้เดียว และเมื่อสองปีที่ผ่านมาเพื่อนบ้านคนนั้นเสียชีวิตลง คุณลุงก็ส่งเงินให้ธนาคารตลอดมาจนเมื่อประมาณสองเดือนที่แล้วคุณลุงจ่ายเงินให้ใช้หนี้ให้ธนาคารหมดแล้ว จึงไปทำการโอนกับธนาคารที่กรมที่ดิน (คำถามค่ะ)

1. เหตุใดธนาคารจึงโอนเป็นชื่อของคุณลุงกับเพื่อนบ้านได้ค่ะ ซึ่งเพื่อนบ้านคนนั้นได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อสองปีก่อน (ธนาคารให้คุณลุงไปคัดสำเนาใบมรณบัตรของเพื่อนมา)

2. ตอนนี้คุณลุงจะทำอย่างไรถ้าหากว่าคุณลุงจะทำการโอนที่ของคุณลุงให้กับลูกๆของคุณลุงซึ่งมีอยู่เพียง 75 ตรว.เท่านั้น

3. เพื่อนบ้านคนดังกล่าวเป็นผู้หญิง มีสามีและลูก 3 คน (แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) คุณลุงไปถามลูกชายคนโตซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน เขาบอกว่าพ่อกับน้องสาว 2 คน ย้ายไปนานแล้วไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน (เจ้าหน้าที่กรมที่ดินบอกว่าจะต้องไปตามสามี และลูกๆของผู้ตายมาเซ็นต์ยินยอม) แล้วถ้าเขาเหล่านั้นไม่เซ็นต์ยินยอมจะทำอย่างไรได้บ้างค่ะ

ดิฉันในฐานะลูกค้าที่ซื้ออาหารคุณลุงทุกวัน สงสารคุณลุงค่ะ แต่ว่าไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายเลย ขอกราบเรียนรบกวนอาจารย์ช่วยตอบด้วยนะค่ะ แล้วดิฉันจะได้ไปแนะนำคุณลุงค่ะ

กราบขอบพระคุณอาจารย์ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

เรียน สงสารคุณลุง

    1. เมื่อไปกุ้ร่วมกันเพื่อมาซื้อที่ดิน เมื่อชำระเงินหมดแล้วเขาก็ย่อมโอนให้แก่คนที่กู้ร่วมกันเป็นของธรรมดา

    2. ตามสภาพของกฎหมายที่ดินแปลงนี้จะมีเจ้าของร่วมกันคือลุงกับเพื่อน ดังนั้นครึ่งหนึ่งจึงเป็นของลุง เมือ่ลุงจะโอนที่ดินให้ลูก ก็สามารถโอนส่วนของตนให้ได้โดยไปจดทะเบียนโอนใส่ชื่อลูก ๆ ได้ทันที แต่ก็จะยังมีชื่อของเพื่อนตกค้างอยู่

    3. ถ้าเขาไม่ลงชื่อยินยอมก็คงลำบากหน่อย เพราะจะต้องไปหาหลักฐานเพือมาฟ้องร้องกัน ซึ่งไม่ใช่ง่ายนัก