เรียน ท่านมีชัยที่เคารพ ผมขอให้รายละเอียดเพิ่มเติม คือ หลังจากสัญญาเช่าหมดลง ผมได้เข้าไปบอกผู้เช่าเดิมเรื่องการก่อสร้างบ้านดังกล่าว และบอกให้ผู้เช่าเดิมเคลื่อนย้ายของซึ่งอยู่ในบริเวณที่จะทำการก่อสร้างออกไป ผู้เช่าจึงได้ขนของออกจากบริเวณดังกล่าวให้และยินยอมให้ผมเข้าไปทำการก่อสร้าง โดยยังคงมีโรงเรือนและสัมภาระของผู้เช่าเดิมอยู่ในบริเวณอื่นๆของที่ดิน ผมจึงได้ทำการขนวัสดุอุปกรณ์และไม้แบบ ปักผังบริเวณที่จะก่อสร้าง และดำเนินการลงเสาเอก เสาโท ไปแล้ว โดยได้รับความยิมยอมจากผู้เช่าเดิมโดยไม่มีการโต้แย้ง และผู้เช่าเดิมก็ได้ร่วมอยู่ในพิธีการลงเสาเอกนั้นด้วยโดยมีพยานรู้เห็นหลายคน ซึ่งก่อนการลงเสาเอกเสาโทและหลังลงเสาเอกเสาโทผมได้ขนวัสดุเข้าออกที่ดินพิพาทดังกล่าวหลายครั้งรวมระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ผู้เช่าเดิมก็ไม่เคยทักท่วงจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ตามที่กล่าวไปแล้วในคำถาม 017873 ซึ่งน่าจะเป็นเพราะผู้เช่าเดิมเพิ่งได้รับหนังสือแจ้งให้ขนสัมภาระออกจากที่ดิน จึงได้มาปักป้าย"ที่ดินอยู่ในระหว่างฟ้องร้องคดี ห้ามบุกรุกก่อนได้รับอนุญาต" ผมขอถามเพิ่มเติมว่า
1.การผู้เช่าเดิมอนุญาตให้ผมเข้าไปดำเนินการก่อสร้างในที่ดินบางส่วนและขนสัมภาระของตนออกจากที่ดินส่วนนั้น ถือว่าเป็นการสละเจตนาครอบครองหรือไม่ และทำให้การครอบครองของผู้เช่าเดิมในที่ดินส่วนนั้นสิ้นสุดลงหรือไม่ครับ
2.การที่ผมได้เข้าไปดำเนินการก่อสร้างเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ โดยผู้เช่าเดิมอนุญาตและไม่ทักท่วง ถือได้หรือไม่ว่าน้าของผมได้สิทธิครอบครองโดยผู้อื่น(ผม)ยึดถือไว้ให้
3.ผมจะถือเอาข้อตกลงในสัญญาที่ระบุว่า "ถ้าผู้เช่ากระทำผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้ทันที และผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะเข้าครอบครองที่เช่าได้ฉับพลัน " เพื่อเข้าไปทำการก่อสร้างโดยไม่ต้องรอคดีจบได้หรือไม่