ดิฉันเป็นร้านค้าปลีกได้สั่งซื้อสินค้ากับผู้ขายส่งรายหนึ่ง ระยะแรก ๆ ผู้ขายมาส่งของที่ร้านพร้อมให้จ่ายเงินสดหรือจะรูดบัตรเครดิตก็ได้ ค้าขายกันประมาณ 5-6 เดือน ต่อมาสินค้าบางรายการผู้ขายอ้างว่ายังไม่ได้เครดิตจากบริษัทผู้จัดจำหน่ายจึงขอให้ทางดิฉันโอนเงินให้ก่อน การส่งสินค้าในระยะหลัง ๆ ได้ของไม่ค่อยครบและบอกจะส่งมาให้ภายหลัง สินค้าบางรายการติดค้างมาหลายงวด ต่อมาก็แจ้งว่าไม่สามารถส่งสินค้าให้ได้อีกเพราะประสบปัญหาทางการเงิน ดิฉันโทรถามได้ความว่า ผู้ขายตั้งราคาสินค้าต่ำกว่าท้องตลาดเล็กน้อย เพื่อนำเงินไปหมุนใช้ ดิฉันจึงได้แจ้งความ ทางตำรวจได้ติดต่อคู่กรณีเพื่อเจรจาแต่ทางคู่กรณีกับผิดนัดและเพิกเฉย ดิฉันทำเรื่องไกล่เกลี่ยผ่านศาลจังหวัดทางคู่กรณีอ้างว่าไม่ได้รับจดหมายและบอกว่าให้ฟ้องศาลได้เลย (เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ เมษายน 2548 ดิฉันได้แจ้งความเมื่อ พฤษภาคม 2548) ดิฉันมีปัญหาขอรบกวนดังนี้ค่ะ
1. การซื้อขายเราไม่ได้ทำเป็นสัญญาหรือใบสั่งซื้อ แต่ใช้การโทรสั่งของ จึงไม่มีหลักฐานในส่วนนี้
2. หลักฐานที่มี(ใบโอนเงินของดิฉัน และใบส่งสินค้าของผู้ขาย) ก็ยุ่ง ๆ ไม่ตรงกันเพราะสินค้าทบไปทบมาตลอด
3. ดิฉันควรทำอย่างไรต่อไป ถ้าจะจ้างทนายควรทำอย่างไร ดิฉันไม่อยากสูญเงินเพิ่มอีก (มีผู้เตือนมาว่าจ้างทนายต้องเสียค่าทนายมาก ถ้าไม่สามารถได้เงินคืนมาได้ก็เสียเงินฟรี)ดิฉันจะตกลงกับทนายโดยจ่ายให้ทนายเป็นส่วนแบ่ง 40% ของยอดเงินที่สามารถเรียกคืนมาได้ ได้หรือไม่
4. ทั้งหมดนี้อายุความหมดหรือยัง
การจ้างทนายความ ก็เพียงแต่เดินไปที่สำนักงานทนายความแล้วก็บอกกับเขา ถ้าเขารับดำเนินการให้ เขาคงบอกเองว่าจะต้องเตรียมอะไรบ้าง และจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไร ถ้ารู้แล้วจะตัดสินใจให้เขาทำหรือไม่ก็ได้