เรียนท่านอาจาย์ มีชัย ครับ
ผมมีเรื่องรบกวนท่านหน่อยครับ คือคุณแม่ผมมีลูกด้วยกันทั้งหมด 4 คน คุณแม่ได้ไปอยู่อเมริกากับพี่สาวผมครับ ผมและพี่ชายไม่ได้อยู่บ้านเดียกับคุณแม่ครับ คุณแม่จะอยู่บ้านเดียวกับน้องชายครับที่เมืองไทย แต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2548 คุณแม่ได้ลงมาเมืองไทยและได้ให้ผมพาไปธนาคารเพื่อโอนเงินในธนาคารและโอนบ้านให้เป็นชื่อน้องชายผมคนเดียวครับ(เพื่อเป็นผู้ดูแล) เพราะคุณแม่ไว้ใจน้องชายคนนี้มากครับ เพราะน้องชายมีความรู้ดี่ที่สุดและมีหน้าที่การงานดีที่สุดกว่าคนอื่นครับ ส่วนผมตอนนี้ก็ตกงานด้วยครับ โดยแม่บอกผมว่าให้น้องเป็นคนดูแลเพื่อว่าแม่จะใช้เงินทองตอนอยู่อเมริกาน้องชายจะได้เป็นคนจัดการให้ครับ แต่คุณแม่บอกว่าไม่ต้องน้อยใจนะเพราะแม่ได้จัดการส่วนของแกไว้ให้แล้ว โดยคุณแม่สั่งด้วยวาจากับน้องชายไว้โดยไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ด้วยครับ พอเมื่อ 15/11/2548 คุณแม่ผมได้เสียชีวิตลง พอถึงตรงนี้แล้วน้องชายไม่ยอมแบ่งเงินให้พวกพี่เลยสักคนเดียวเลย โดยน้องชายอ้างว่าคุณแม่ไม่ได้สั่งอะไรไว้และบอกว่าคุณแม่ไม่มีเงิน แต่เท่าที่ผมรู้ก็เพราะผมเป็นคนพาคุณแม่ไปโอนเงินที่ธนาคารแต่ผมไม่ทราบจำนวนเงินว่าโอนเท่าไหร่ครับ และผมก็มีหลักฐานใบสรรพากรว่าคุณแม่ผมมีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารปีละประมาณ 130,000 บาทครับ ผมไม่สามารถจะไปขอ statement ทางธนาคารได้ครับว่าคุณแม่โอนเงินไปให้น้องชายเท่าไรครับ เงินก้อนนี้ล่ะครับที่คุณแม่ผมโอนให้น้องชายไป ผมไม่ทราบว่าดอกเบี้ยขนาดนี้เงินต้นมันน่าจะประมาณไม่ต่ำกว่า 4-5 ล้านบาท ครับผมไม่ทราบตัวเลขที่แน่นอนครับ น้องชายจะบอกว่าคุณแม่ไม่มีเงินคงเป็นไปไม่ได้ใช่ไหมครับ น้องชายผมได้เปรียบตรงที่ว่าทุกอย่างคุณแม่ได้โอนเป็นชื่อของน้องชายคนเดียวครับ ในกรณีอย่างนี้ผมและพี่ชาย,พี่สาว จะทำอย่างไรดีครับ อยากให้น้องชายผมแบ่งให้พวกพี่บ้างครับจะได้ไปทำทุนทำมาหากินครับ พอโทรไปหาน้องชายเพื่อขอคุยเรื่องจะแบ่งเงิน น้องชายบอกว่าไม่ให้ใครทั้งนั้น และจะไม่ยอมรับสายโทรศัพท์ด้วยครับ ผมอยากให้ท่านอาจาย์แนะนำผมหน่อยครับว่าผมควรทำอย่างไรนี้ครับ จะฟ้องร้องขอแบ่งเงินได้บ้างไหมครับ ถ้าจะฟ้องร้องจะฟ้องร้องแบบไหนครับ พวกน้าๆ น้องสาวคุณแม่ก็สงสารผมและพี่ๆ ครับที่น้องชายไม่ยอมแบ่งเงินให้เลยครับ พวกน้าๆ ผมบอกว่าจะขี้นศาล พวกน้าๆ ผมจะเป็นพยานให้ครับว่าคุณแม่ ก็พูดกับพวกน้าๆ ไว้ว่า ลูกฉันรักและให้ทุกคน จะได้มากได้น้อยก็ว่ากันไป แต่ที่โอนให้น้องชายคนเดียวเพราะว่าไว้ใจอยากให้เป็นคนดูแลทรัพย์สินครับ สุดท้ายนี้ผมรบกวนท่านอาจารย์ช่วยชี้แนะผมด้วยครับว่าควรทำอย่างไรดีครับ กรณีอย่างนี้เหมือนพวกผมและพี่ๆ เข้าข่ายที่ว่าโดนตัดมิให้ได้รับมรดกหรือเปล่าครับ ถ้าเช่นนั้นทายาทของผมคือลูกๆ ของผมจะเป็นผู้เข้ามารับมรดกแทนที่ผมต่อไปได้หรือเปล่าครับ ผมกราบขอบพระคุณท่านอาจาย์ไว้ล่วงหน้าครับ ขอบพระคุณมากครับ ผมจะรอคำแนะนำจากท่านนะครับ ถ้าไม่รบกวนท่านมากผมอยากให้ท่านตอบกลับมาที่นี่ก็ได้ครับ e-mail surang.p@at-att.com
เรียน คุณศราวุฒิ
ถ้าแม่ยกทรัพย์สินรวมทั้งเงินสดให้น้องชายไปก่อนที่จะเสียชีวิต ก็แปลว่าแม่ไม่มีมรดกอะไรเหลือพอที่จะแบ่งลูก ๆ หรือทายาทอื่นได้ เงินและทรัพย์สินที่โอนไปเป็นของน้องย่อมตกเป็นของเขาโดยสมบูรณ์ เขาจะแบ่งให้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องความเมตตาของเขาไปบังคับอะไรเขาไม่ได้ เว้นแต่จะมีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าแม่โอนให้ในฐานะตัวแทน (ซึ่งคงยากที่จะพิสูจน์)
