กราบเรียน อาจารย์มีชัย
กรณีที่นายก อบต.อนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมหลายแสนบาทสมทบการไฟฟ้าโดยที่สภามีมติไม่อนุมัติ เมื่อมีการสอบสวนเสร็จสิ้น ผู้ว่าฯ วินิจฉัยว่าเป็นการกระทำการโดยสุจริต เพื่อผู้เดือดร้อนเรื่องไฟฟ้า และก่อนที่นายก อบต.จะอนุมัติจ่ายนั้น สมาชิกสภา อบต.ส่วนใหญ่ได้ให้ความเห็นชอบ โดยได้ไปตกลงกันว่าจะแก้ไขรายงานการประชุมให้เปลี่ยนเป็นว่าให้ความเห็นชอบ แม้ว่าจะไม่ถูกต้องเพราะไม่ได้มีการนัดประชุมตามระเบียบ แต่ฟังได้ว่าเป็นการตกลงระหว่างสมาชิก จึงเห็นตามที่อำเภอเสนอว่า ไม่สมควรที่จะพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 92 ของ พรบ.สภาตำบลฯ
ส่วนสมาชิกสภาจำนวนกึ่งหนึ่ง เมื่อทราบแล้วก็ไม่ยินยอมเพราะว่าในคำวินิจฉัยของผู้ว่าฯ ได้มีคำว่าสมาชิกตกลงให้แก้ไขรายงานการประชุม ซึ่งสมาชิกจำนวนนี้เห็นว่า ผู้ว่าฯกล่าวหาว่าพวกตนพยายามกระทำผิดกฎหมาย โดยยืนยันว่าพวกตนเองไม่เคยตกลงเช่นนั้น เรื่องนี้มีหลักฐานคือประชุมครั้งแรกสภาไม่อนุมัติ (ต่อมามีการเรียกสมาชิกฯไปคุยกันโดยมีคนนอกคือผู้ใหญ่บ้าน1คนและปลัดอบต.และเลขานายกฯ 1คน ตอนสอบข้อเท็จจริงก็อ้างคำพูดของคนเหล่านี้ว่าสมาชิกตกลงกันตามที่ผู้ว่าฯนำไปใช้) แล้วนายกฯ ก็จ่ายเงิน ต่อมาถูกร้องเรียนก็นำเข้าที่ประชุมอีกสภาก็ไม่อนุมัติอีก
ขอถามอาจารย์ว่า สมาชิกสภา อบต.จะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง ที่ผู้ว่าฯจะวินิจฉัยอย่างไรก็ได้แต่ต้องถอนความที่หมายความว่า "สมาชิกส่วนใหญ่ตกลงกันว่าให้แก้ไขรายงานการประชุมหรือ สมาชิกส่วนใหญ่มีมติให้ความเห็นชอบ" เพราะเป็นความเท็จ อีกประการหนึ่งครับ คำว่ากระทำการโดยสุจริตนั้นมีองค์ประกอบใดบ้าง ที่ผู้ว่าฯอ้างก็มีแต่ มีประชาชนจำนวน 11 คนไปร้องเรียนที่จังหวัดว่าไม่มีไฟฟ้าใช้ หลังจากที่มีเรื่องร้องเรียนนายกฯแล้ว และอ้างว่าประชาชนจะมีไฟฟ้าตามนโยบายรัฐบาล(โดยไม่พิสูจน์ว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ที่นายกฯอนุมัติเงินไปนั้นอยู่นอกเขตตำบลตนเอง)
ขอขอบพระคุณอย่างสูงครับ
เรียน คุณนิพิธ
ถ้าเรื่องเป็นจริงอย่างที่คุณว่า ทั้งนายก อบต. ปลัด อบต. และผู้ว่าราชการจังหวัดก็อาจมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร ทุจริตต่อหน้าที่ จะฟ้องศาลปกครองเพื่อให้เพิกถอนการกระทำ หรือจะฟ้องศาลอาญาเพื่อเอาผิดก็ได้