เรียน ท่านมีชัย
1.ผมกู้เงินมา 175,000 บาทแต่ผมต้องใช้คืนถึง 260,000 บาท ถือว่า บริษัทคิดอัตรดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนดหรือไม่ และค่าปรับเดือนละ 500 บาท ถูกต้องตามกฎหมายหรือเปล่าครับ
2.ผมผ่อนชำระหนี้ได้ 30 งวดจาก 42 งวด ต่อมาผมไม่สามารถผ่อนต่อได้ในอัตราปกติ ผมขอปรับโครงสร้างหนี้กับทางบริษัท แต่ทางบริษัทไม่ยอมจะดำเนินคดีต่อผมให้ผมชำระเงินทั้งก้อน ถ้าขบวนการถึงศาลๆจะยอมให้ผมผ่อนชำระตามกำลังที่ผมผ่อนได้หรือเปล่าครับ
3.ทางสำนักงานกฎหมายส่งจดหมายมาบอกให้ผมชำระหนี้ภายใน 3 วัน ถ้าผมไม่ชำระหนี้จะดำเนินคดีกับผม ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าผมถูกดำเนินคดี(กลัวสำนักงานกฎหมายหมกเม็ด)
4.ค่าจ้างทนายความจำเลยจำนวน 8,000 บาท ผมต้องจ่ายด้วยหรือครับในเมื่อผมไม่ได้ว่าจ้าง (เป็นค่าใช้จ่ายที่สำนักงานกฎหมายส่งมา)
5.ศาลจะซักถามเรื่องอะไรกับผมบ้าง
ขอขอบพระคุณครับ
เรียน คุณณัฏฐนันท์
1. ขึ้นอยู่กับว่าระยะเวลาเท่าไร บางทีกู้มาแล้วไม่ได้ชำระเลยเป็นเวลา นาน ๆ ดอกเบี้ยก็ท่วมต้นได้
2. ปกติศาลท่านจะไกล่เกลี่ย ถ้าตกลงกันได้ก็จะพิพากษาไปตามที่ตกลงกัน แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ ศาลก็พิจารณาคดีต่อไป ถ้าลูกหนี้แพ้ เจ้าหนี้เขาก็นำเจ้าพนักงานไปยึดทรัพย์มาขายทอดตลาด
3. เวลาเขาฟ้องศาล ๆ จะต้องส่งหมายมาให้คุณ เพื่อให้คุณไปสู้คดี
4. เวลาที่คุณแพ้คดี บางทีศาลก็สั่งให้จำเลยจ่ายค่าทนายความแทนโจทก์
5. เมื่อถูกฟ้อง คุณก็ต้องทำคำให้การไปยื่นภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งศาลท่านก็จะอ่านจากคำฟ้องและคำให้การ โดยศาลท่านไม่จำเป็นต้องถามอะไรคุณหรอก นอกจากในเวลาที่ไกล่เกลี่ย ท่านอาจจะถามว่าคุณเป็นหนี้เขาจริงหรือไม่ จะชำระให้เขาได้อย่างไร