ขอคำปรึกษา

ดิฉันกับสามีต้องการกู้เงินเป็นก้อนเพื่อไว้ปรับปรุงบ้านและไถ่ถอนจาก ธกส.และซื้อรถ เดิมที่ดินและบ้านติดจำนองที่ ธกส. 86000 บาทโดยผู้กู้คือพ่อของดิฉันต่อมาสามีและฉันต้องการนำที่ดินไปจำนองที่ ธอส. ตามโครงการสิทธิของข้าราชการในการกู้เงิน กบข. โดยเงือนไขการใช้สิทธิต้องเป็นซื้อขายที่อยู่อาศัยหรือไถ่ถอนจำนอง เราจึงเลือกเป็นซื้อขายโดยตกลงกับพ่อว่าจะนำเงินไปปิดที่ ธกส.ซึ่งพ่ออายุ60 กว่าแล้วไม่อยากรับผิดชอบก็เลยให้ลูก ๆ คือดิฉันตัดสินใจเอง เราจึงทำการปิดที่ ธกส. และทำเป็นพ่อขายให้สามีและดิฉันโดยในสัญญาเป็นการซื้อขายที่ดินและชื่อผู้กู้และผู้กู้ร่วมรวมทั้งกรรมสิทธิ์เป็นชื่อของดิฉันและสามี ต่อมาสามีนอกใจไปมีภรรยาน้อย (สามีรับราชการทหาร) ประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมาหลังจากที่กู้แล้วและเค้าพยายามกดดันดิฉันโดยหลาย ๆ เรื่องซึ่งส่วนใหญ่จะทำให้เสียใจและทำลายจิตใจด้วยวาจาและก้าวร้างถึงบุพการีของดิฉัน และอ้างสิทธิในที่ดินว่าจะขายหรือถ้าหย่าจะแบ่งครึ่งที่ดินดังกล่าว ทั้ง ๆ ที่ที่ดินนั้นเป็นการทำนิติกรรมอำพรางและการขายความจริงพ่อกับแม่หรืแม้แต่ดิฉันก็ไม่เคยได้ถือเงินแม้แต่บาทเดียว เค้าสัญญาด้วยวาจาว่าจะเลี้ยงดูพ่อแม่ดิฉันแต่เค้าไม่รับผิดชอบตามที่พูดเลย แม้แต่การดูแลภรรยาตามหน้าที่สามีก็ไม่ปฏิบัติ แถมไม่ยกย่องภรรยาตามหน้าที่สมควร เพราะแม้แต่ที่ทำงานก็ไม่ให้ดิฉันเข้าไปเลยทั้ง ๆ ครอบครัวคนอื่นเค้าอยู่กันเป็นครอบครัวในบ้านพักได้ ส่วนรถที่ซื้อก็เป็นชื่อเค้าดิฉันกลุ่มใจสงสารพ่อเสียใจที่ไว้ใจเค้า แล้วสัญญาที่กู้เค้าแยกเป็น 2 ฉบับเป็นเงิน 543000 บาท โดยเค้าใช้สิทธิกู้ กบข.ได้แต่ 310000 บาทส่วนที่เหลือ22000 เป็นกู้ทั่วไป โดยดิฉันขอหย่ากับสามี ซึ่งเค้ายื่นขอเสนอว่าหย่าแล้วเค้าจะสลักหลังให้ว่าทรัพย์สินบ้านและที่ดินทั้งหมดยกให้ฝ่ายหญิง โดยเค้าจะผ่อนไปเรื่อย ๆ เดือนละ 3,000 บาทเป็นเวลา25ปี แต่ดิฉันคิดว่าถ้าหย่าแล้วดิฉันไม่อยากให้มีอะไรต้องมาผูกพันธ์เกี่ยวข้องกันอีก ดิฉันจึงบอกว่าถ้าหย่าให้เค้าหาเงินมาปิดส่วนที่เป็น กบข.เค้าแล้วส่วนที่เหลือดิฉันจะรับผิดชอบเองเพราะดิฉันถือว่าเป็นส่วนที่ดิฉันนำมาปรับปรุงบ้านที่อยู่อาศัยและเป็นค่าไถ่ถอนจาก ธกส.และสัญญาตัวนี้ไม่เกี่ยวกับ กบข.เค้า ซึ่งถ้าในอนาคตดิฉันต้องการที่ดินของดิฉันไปทำนิติกรรมอย่างอื่นจะได้ไม่ต้องเกี่ยวข้องในส่วนที่เค้ารับผิดชอบ เพราะทุกวันนี้เค้าก็แทบเรียกว่าไม่มีความเป็นลูกผูชายจนบางครั้งพูดว่าจะฟ้องหย่าดิฉัน เรื่องหนี้สินที่ฉันมี และฟ้องว่าไม่ดูและสามีตามหน้าที่ แต่เค้าไม่ยอมกลับมาบ้านส่วนดิฉันจะไปหาที่ทำงานก็ไม่ให้ไปถ้าไปก็พูดจาดูถูก ว่ากล่าวอย่างรุนแรง ดิฉันกลุ่มใจว่าดิฉันจะทำอย่างไรดีกับปัญญหาแบบนี้จะฟ้องหย่าหรือว่าร้องเรียนถึงผู้บังคับบัญชาเค้าเพราะผู้บังคับบัญชาก็สนิทกับอาเค้าด้วยดิฉันจะทำอย่างไรดีเพราะถึงอย่างไรดิฉันกับเค้าจะอยู่ร่วมกันไม่ได้แล้วด้วยเหตุผลดังกล่าว และตลอดเวลาที่ผ่านมาเค้ากับมีผู้หญิงอื่นซึ่งดิฉันก็ทราบและเคยคุยกับเค้าแล้วว่าสิ้นปี 48 เค้าย้ายมาเชียงรายเค้าจะเลิกแต่กลับยิ่งแย่กว่าเดิมคือไม่กลับบ้านมา 3เดือนและไม่โทรติดต่อมาเลยทั้ง ๆ ที่บ้านอยู่ลำพูน และดิฉันทราบว่าเค้ากลับไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นที่กรุงเทพฯในช่วงวันหยุด ดิฉันโทรไปเค้าก็ล็อกเบอร์ไม่รับสายดิฉัน และดิฉันจะทำอย่างไรดี และมีวิธีไหนที่จะแก้ไขในเรื่องทรัพย์สินได้ค่ะ
1.ดิฉันจะฟ้องหย่าเค้าอย่างไรดีเพื่อให้เค้าชำระหนี้ให้หมดและคืนที่ดินให้ดิฉัน

2.ตลอดเวลาที่มีปัญหากับเค้าไม่ว่าจะเรื่องที่เค้าด่า ทำร้ายร่างกายดิฉันดิฉันจะบันทึกไว้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

3.และเค้ารับปากและยอมรับเองว่ามีสัมพันธ์กับหญิงอื่นและดิฉันเองก็มีรายงานการใช้โทรศัพท์ที่เค้าติดต่อกัน

4.ดิฉันจะทำอย่างไรค่ะถ้าต้องการฟ้องร้องและให้เค้าออกงานด้วยจะต้องเตรียมหลักฐานหรือว่าร้องกับหน่วยงานไหน เพราะเค้าทำให้ดิฉันและครอบครัวอับอายและได้รับดูถูกจากตัวเค้าและครอบครัวเค้า และที่ทำงานของเค้าเองเนื่องจากพฤติกรรมเค้าเหมือนหลอกลวงดิฉันให้ทำนิติกรรมอำพรางเพราะระยะเวลาที่เค้าทำนิติกรรมเรียบร้อยแล้วเวลาไม่ถึง 3 เดือนเค้าก็เริ่มออกลายนะค่ะว่าขอแยกอยู่กับดิฉัน ดิฉันไม่ยอมก็เราเรื่องลูกดิฉันมาเป็นข้ออ้าง ต่อมาเอาเรื่องแม่กับพ่อมาพูดว่าเป็นภาระสำหรับเค้าที่จะต้องมาเลี้ยงดู ซึ่งจริง ๆ แล้วเค้าแทบไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยแค่ส่งธนาคารที่กู้เดือนละ 3000 บาทเท่านั้น

สุดท้ายรบกวนอาจารย์ด้วยนะค่ะเพราะกลุ่มใจมากเลยค่ะ

1-3  ทั้งสามประการนั้นใช้เป็นเหตุฟ้องหย่าได้

 4. การคิดจะให้เขาออกจากงานด้วยนั้น จะเป็นบาปกรรมผูกพันกันต่อไปเปล่า ๆ นอกจากนั้นหากเขาตกงานจริง ๆ ในที่สุดเขาก็คงมาพึ่งพิงคุณอยู่นั่นเอง   สำหรับเรื่องการแบ่งทรัพย์สินนั้น ถ้านำสืบในศาลดี ๆ ว่าเขาเป็นฝ่ายผิดและข้อเท็จจริงในเรื่องที่ดินเป็นอย่างที่คุณเล่ามา คุณก็มีโอกาสได้ทรัพย์สินคืนมา