กราบเรียน อาจารย์มีชัย ที่เคารพ
กระผม(เป็นรองประธาน)และเพื่อน(ประธาน)ได้เปิดดำเนินกิจการฌาปนกิจสงเคราะห์โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายจากทางราชการ ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2541 เป็นต้นมา และใช้ชื่อว่าชมรมผู้สูงอายุมหาชน
ซึ่งได้มีประชาชนให้ความสนใจได้มีการสมัครเข้าเป็นสมาชิกของชมรมและจ่ายค่าธรรมเนียมรายละ 1,270 บาท นอกจากนั้นจะต้องเสียค่าสงเคราะห์ศพเป็นรายเดือน ศพละ 20 บาท ตามจำนวนสมาชิกเสียชีวิต โดยสัญญาว่าหากสมาชิกเสียชีวิตลงหลังจากเป็นสมาชิก 180 วันขึ้นไปชมรมจะจ่ายเงินค่าสงเคราะห์ศพให้กับทายาทศพละ 50,000บาท จนมีสมาชิกจำนวน 2,500 คน หลังจากบริหารไประยะหนึ่งชมรมผู้สูงอายุมหาชน เกิดข้อผิดพลาดขึ้นในการจัดการบริหารงาน จนสุดท้ายไม่มีการจ่ายเงินค่าสงเคราะห์ศพดังกล่าว ให้กับผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิก ( ยอมรับว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์จริงๆ ) ซึ่งคดีความ เลขที่ 1212 /2543 ศาลได้ตัดสินให้ยอมความกันโดยให้มีการชำระเงินคืนค่าสงเคราะห์ศพให้แก่สมาชิกทั้งหมดและในกรณีที่เสียชีวิตด้วย แต่กระผมก็ยังมีมลทินติดอยู่ซึ่งมีพฤติการณ์ฉ้อโกงประชาชนโดยการทุจริตหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จปกปิดข้อความจริงซึ่งการบอกให้แจ้งและการหลอกลวงเช่นนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้หลวงลวงหรือบุคคลที่สาม และเข้าการกระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนหรือปกปิดความเป็นจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341,343 พฤติการณ์ดังกล่าวและถือว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบเข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 98 วรรคสอง เป็นตราบาปที่ตัวเองต้องจดจำมาตลอดทุกวันนี้ ผมได้ศึกษาต่อด้านกฎหมาย และขอเรียนถามอาจารย์ว่า ผมมีคุณสมบัติที่จะไปลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบต. หรือทำงานราชการ ได้หรือไม่ และอีกกรณีหนึ่ง มี พ.ร.บ.ล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ตามกรณีของผมจะได้ล้างมลทินด้วยหรือไม่ ถ้าได้ผมจะมีสิทธิสมัครตามกรณีข้างต้นได้หรือไม่
ขอขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างสูง
ผู้รอความอนุเคราะห์กรรม
เรียน คุณวุฒิพงษ์
เมื่อไม่ได้ถูกลงโทษจำคุก ก็ไม่ขาดคุณสมบัติในเรื่องนี้