ผมถูกทำร้ายร่่างกายโดยคน 2 คน ผมไม่รู้จัก แต่คาดว่าน่าเป็นคู่อริส่งมา โดยผมจำทะเบียนรถคนร้ายได้ เลยแจ้งตำรวจ ปรากฏว่าตำรวจไปตรวจสอบเป็นของนาย กิ๊ก โดยนาย กิ๊ก ให้การกับตำรวจครั้งแรกว่าบอกว่าให้นาย ขาว ยืมไป ทั้ง นาย กิ๊ก และ นาย ขาว ไม่ใช่คนทำร้ายผม ต่อมาตำรวจให้นายกิ๊ก ดูรูป นาย ขาว นายกิ๊ก บอกว่า ไม่ใช่คนที่ยืมรถเขาไป ผมเพิ่งมารู้ทีหลังว่าตำรวจแต่งคำให้การให้นายกิ๊กเซ็นเพื่อช่วยนายขาว และผมได้ร้องให้เปลี่ยนผู้สอบสวนคนใหม่ ต่อมา นายกิ๊ก เสียชีวิตไป ผมไปสอบถามญาติๆและคนแถวบ้านของนายกิ๊ก พบว่านายกิ๊กบอกว่านายขาวนี่แหล่ะเป็นผู้ยืมรถเขาไป ผมจึงให้ญาติๆนายกิ๊กทั้งหมด 3 คน ไปให้การกับตำรวจคนใหม่ และยังมีเพื่อนบ้านแถวๆนั้น ซึ่งทุกคนยืนยันว่านายขาวนี่แหล่ะยืมรถนายกิ๊ก ไปในวันเกิดเหตุ ต่อมาตำรวจคนใหม่สรุปสำนวนสั่งฟ้องนายขาว ข้อหาผู้ใช้ และต่อมาอัยการสั่งไม่ฟ้องนายขาวเฉยเลย โดยให้เหตุผลว่าพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง ผมขอถามอาจารย์ว่า
1.อัยการสั่งคดีอย่างนี้มีความผิดข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบไหมครับ เพราะพยานทั้งหมดยืนยันว่านายขาวเป็นผู้ยืมรถนายกิ๊กไป ยกเว้นแต่นายกิ๊กที่ให้การว่านายขาวไม่ได้ยืมรถเขาไป แต่ว่าตำรวจชุดก่อนแต่งเรื่องให้และผมก็ให้การว่าตำรวจคนก่อนแต่งเรื่องให้นายกิ๊กเซ็น
2.หากผมฟ้องเอง ตามความเห็นของอาจารย์ จะเอานายขาวเข้าคุกได้หรือไม่ อาจารย์ว่าจะชนะคดีได้ประมาณกี่เปอร์เซนต์ครับและเพราะอะไรครับ
1. การสั่งคดีของอัยการย่อมเป็นไปตามสำนวนที่ตำรวจทำเสนอมา จึงโทษอัยการไม่ได้ ถ้ามีหลักฐานว่าตำรวจคนแรกทำคำให้การเป็นเท็จ ก็ฟ้องร้องตำรวจคนนั้นได้
2. ถ้าข้อเท็จจริงเพียงที่เล่ามา การไปฟ้องก็ไม่น่าจะได้อะไร