ผมมีลูกอยู่ 4 คนและภรรยาของผมได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ลูกชายคนโตของผมมีนิสัยชอบล้างผลาญ เอาเงินไปลงทุนแบบสุรุ่ยสุร่าย และประสบกับความล้มเหลวมาตลอด ผมมีที่ดินในกรุงเทพฯผืนใหญ่ผืนหนึ่ง และผมไม่ต้องการให้ลูกชายคนโตเข้ามายุ่งเพราะกลัวว่าจะล้างผลาญหมด ตอนแลกตั้งใจว่าจะทำพินัยกรรมเอาไว้ แต่กลัวว่าต่อมาในภายหลังลูกชายคนโตจะสามารถยื่นฟ้องต่อศาลได้ จึงเปลื่ยนวิธีการใหม่โดยจะเอาชื่อลูกที่เหลืออีก 3 คนมาใส่ให้เป็นเจ้าของร่วม คือสรุปว่าต้องการให้ผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินมีแต่ผมและลูกที่เหลืออีก 3 คนเท่านั้นแต่คนโตไม่มีชื่อ จึงขอเรียนถามอาจารย์ว่าถ้าหากผมไม่อยู่อีกคน ถ้าใช้วิธีการเพิ่มชื่อแล้วลูกชายคนโตยังสามารถยื่นฟ้องต่อศาลได้อีกหรือไม่ เรื่องนี้ผมกลุ่มใจมาก เกรงว่าถ้าหากคนโตยังมีกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดิน เขาจะพยายามหากลอุบายมาช่อโกงน้องๆอีกจะแน่นอน
ถ้าที่ดินนั้นเป็นสินสมรส และภรรยามิได้ทำพินัยกรรมไว้ เมื่อภรรยาตาย ที่ดินนั้นจะถูกแบ่งครึ่ง ครึ่งหนึ่งเป็นของสามี อีกครึ่งหนึ่งเป็นของภรรยา ซึ่งจะตกได้แก่คู่สมรสและบุตรทั้ง ๔ คน ๆ ละเท่า ๆ กัน รวมความว่าที่ครึ่งหนึ่งที่เป็นส่วนของภรรยาจะถูกแบ่งเป็น ๕ ส่วน คุณในฐานะสามีได้ ๑ ส่วน บวกกับครึ่งหนึ่งที่เป็นสินสมรสของคุณ ส่วนบุตรอีก ๔ คน จะได้คนละ ๑ ส่วน หรือเท่ากับว่าคุณจะได้ที่ดินนั้น ๖ ใน ๑๐ ส่วน ส่วนบุตรจะได้คนละ ๑ ในสิบส่วนของที่ดินทั้งแปลง
แต่ถ้าที่ดินนั้นเป็นสินส่วนตัวยของคุณ การตายของภรรยาก็ไม่กระทบต่อที่ดินนั้น ที่ดินนั้นยังเป็นของคุณทั้งหมด คุณจะยกให้ใครก็ได้ แต่ถ้าคุณใส่ชื่อบุตรอีก ๓ คนมาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วม ก็แปลว่า คุณยังมีส่วนของคุณอยู่ในที่ดินนั้น ๑ ใน ๔ ส่วน คุณมีสิทธิทำพินัยกรรมยกให้ใครก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ที่ดินส่วนของคุณก็จะเป็นมรดกตกได้แก่บุตรทั้ง ๔ คน ๆ ละ เท่า ๆ กัน