สวัสดีคะ  ดิฉันมีข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหาครอบครัวคะ   ไม่รู้จะหาทางแก้ไขอย่างไรดีจึงอยากรบกวนสอบถามอาจายร์คะ    เรื่องมีอยู่ว่าิปัจจุบันดิฉันแต่งงานได้หนึ่งปี่กว่าแล้วคะ    ก่อนแต่งงานดิฉันทราบมาก่อนคะว่าแฟนเก่าของสามีท้อง   แต่สามีไม่แน่ใจว่าใช่ลูกของเค้าหรือเปล่าเพราะเลิกกันไปตั้งนานแล้ว   และมาบอกกับสามีดิฉันตอนเค้าท้องได้หกเดือนแล้วคะ  ซึ่งก็เป็นช่วงที่ดิฉันกับสามีกำลังจะแต่งงานกันพอดี      ตอนแรกดิฉันก็จะยกเลิกงานแต่งคะแต่แม่ของสามีก็ได้รับปากกับทางดิฉันอย่างหนักแน่นคะโดยให้เหตุผลว่าไม่ว่าเด็กที่เกิดมาจะใช่หรือไม่ไช่หลานของเค้าเค้าก็จะไม่รับรู้ใๆทั้งสิ้น เพราะผู้หญิงคนนั้นต้องการจะจับผู้ชายด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม  เพราะฐานะทางบ้านของเค้ายากจนมากและเป็นผู้หญิงที่ทำงานกลางคืนคะ    และด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้ิดิฉันยอมตัดสินใจแต่งคะ  

             แต่หลังจากที่แต่งงานได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนดิฉันก็มีปัญหากับสามีอย่างรุนแรงซึ่งก็เป็นปัญหาที่เกิดจากการที่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาวุ่นว่ายกับสามีดิฉันตลอดเพราะเป็นช่วงที่ผู้หญิงคนนั้นเค้าคลอดลูกแล้วคะ   ทั้งโทรมาขอเงิน  ขอความเห็นใจต่างๆนาๆ   ดิฉันไม่พอใจเป็นอย่างมากจนทะเลาะกันอย่างรุนแรง   หลังจากนั้นดิฉันจึงเก็บข้างของย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านของดิฉันตามเดิม     และสามีก็ตามมาขอปรับความเข้าใจและในระหว่างที่คุยกันนั้นดิฉันคงพูดไม่เข้าหูเค้า  เค้าจึงได้ลุกขึ้นมาเตาะดิฉันที่หน้าอย่างแรงโดยที่ไม่ทันตั้งตัวจนเลือดตกยางออกคะ   แต่พ่อแม่ดิฉันก็ไม่ได้เอาเรื่องใดๆกับสามีทั้งสิ้นคะ   เพราะต้องการให้เรื่องมันจบคะ   แต่เพียงแค่ไปแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่าดิฉันโดนทำร้ายร่างกายนะคะกันไว้นะคะ 

         หลังจากที่ดิฉันออกจากโรงพยาบาลไ้ด้ไม่นานแม่ของสามีก็มาทวงเงินค่าใช้จ่ายในการแต่งงานคืนจำนวนเจ็ดหมื่นบาท      แต่ทางดิฉันไม่ได้คืนคะ   แต่ได้ให้ทนายเข้ามาคุยแทนจนจบคดีโดยได้ทำสัญญาหย่าระหว่างดิฉันและสามีไว้สองฉบับคะ   สัญญาระบุว่าเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนี่งพร้อมก็สามารถหย่าได้ทันทีคะ 

       ตอนที่ดิฉันเก็บข้าวของๆดิฉันออกมาจากบ้านสามี  ดิฉันก็ได้หยิบทะเบียนสมรสซึ่งใส่ใว้ในซองเอกสารมาโดยไม่ทันทราบว่าในซองนั้นมีโฉนดที่ดินอยู่ด้วย      แต่เมื่อดิฉันทราบว่ามีโฉนดอยู่ก็รีบนำไปคืนทันที  เพราะไม่รู้จะเอามาทำอะไร  แค่กระดาษแผ่นเดียว    แต่้ด้วยสาเหตุนี้เองจึงทำให้พ่อแม่สามีเข้าใจผิดและไม่พอใจดิฉันเป็นอย่างมาก และเป็นสาเหตุที่ทำให้เรื่องราวเลวร้ายยิ่งขึ้นคะ

   ส่วนดิฉันก็แยกกันอยู่กับสามีได้ประมาณ3เดือน   ช่วงที่แยกกันอยู่นั่นเองก็ได้ทราบข่าวว่าแม่ของสามีได้พาเด็กและแฟนเก่าของสามีดิฉันเข้ามาอยู่ที่บ้านของแม่เค้าอย่างเปิดเผย  ออกหน้าออกตา   โดยที่ยังไม่มีการหย่าเกิดขึ้น   ซึ่งทำให้ทางบ้านของดิฉันอับอายและเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เพราะฐานะทางบ้านของดิฉันดีกว่าสามีทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นฐานะทางการเงินและทางสังคมคะ 

    หลังจากเรื่องจบไปได้ไม่นานดิฉันกับแฟนก็ได้ปรับความเข้าใจกันและกลับมาอยู่ด้วยกันอีกที่บ้านของสามีโดยที่พ่อแม่ของสามีและพ่อแม่ของดิฉันไม่ทราบเพราะอยู่กันคนละหลัง   และดิฉันต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ    เพราะเมื่อไดก็ตามที่พ่อแม่เค้ามาก็จะพาลูกและแฟนเก่าของสามีมาด้วย   ทำให้ดิฉันต้องกลับมาที่บ้านตัวเอง   การที่ดิฉันกลับมาอยู่กับสามีอีกครั้งก็เนื่องจากสามีสัญญาว่าจะย้ายไปอยู่กับดิฉันที่ต่างจังหวัดไม่ให้พ่อแม่เค้ามาวุ่นวายกับเราและดิฉันก็เชื่อคะ เพราะรักสามี  แต่พอถึงเวลาที่จะไปกันจริงๆสามีก็ปฏิเสธที่จะไม่ไปเอาดื้อๆ    บอกแต่เพียงว่าถ้าจะอยู่ักันต่อไปก็ต้องอยู่กันเป็นแบบนี้  ดิฉันเหมือนโดนหรอกยังไงก็ไม่รู้   ดังนั้น จึงทำไห้ดิฉันตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าจะเลิกกับสามีคะ    เพราะดิฉันคิดว่าการที่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาอยู่อย่างนี้ย่อมไม่ส่งผลดีต่อดิฉันในอนาคตแน่นอนคะ    และดิฉันยังไม่มีบุตรคะ

1 ดิฉันสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากแฟนเก่าของสามีได้ไหมคะที่เข้ามาวุ่นวายกับสามีดิฉัน   และถ้าได้สามารถเรียกได้เท่าไหร่คะ  และโอกาสชนะมีไหมคะ(ดิฉันไม่ไ้ด้ต้องการเงินคะ    แต่ต้องการฟ้องเพราะศักดิ์ศรีและเกียรติยศคะ)

2 ในกรณีนี้ดิฉันมีสัญญาหย่าอยู่แล้ว   แต่ถ้าดิฉันต้องการจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการที่พ่อแม่และสามีพาหญิงอื่นเข้ามาและยกย่องฉันภริยาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง  สามารถทำได้ไหมคะ   สามารถเรียกได้เท่าไร และถ้าทำได้โอกาสจะชนะคดีกี่เปอร์เซ็นคะ  

3 ดิฉันได้รับสินสมรสเป็นที่ดินในวันแต่งงาน   ดิฉันสามารถฟ้องร้องในส่วนนี้ได้ไหมคะ

    ขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงคะทีกรุณา