-เป็นลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง หลายล้าน ปี40 ฟ้องศาลตัดสินมีหลักประกัน 4 แปลง -เจ้าหน้าที่ธนาคารให้ทำหนังสือประนอมหนี้ที่70% ปี 43-ขาย 2 แปลงชำระหนี้ไป 62% ปี 44-และอีก 2 แปลงขอชำระหนี้อีก 10% เจ้าหน้าที่ธนาคารให้ทำเสนอว่าให้หมดภาระหนี้เมือชำระใน2 ปี ในปี48(ในปี45 46 เจ้าหน้าที่ของธนาคารสาขาพยายามผลักให้ข้าพเจ้าครอบครัวออกจากทรัพย์หลักประกันที่เหลือ และแปลงหนึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารส่วนหนึ่งร่วมมือกับคนที่เข้าไปอาศัยตั้งแต่ปี44 จน ปัจจุบัน ในที่นี้จะเรียกว่าผู้บุกรุก? และในปี 48 ทางธนาคารอ้างว่าเข้าสวมสิทธิ)-เจ้าหน้าที่ธนาคาร ของปี48 เปลี่ยนเจ้าพนักงาน 4 คน ข้าพเจ้าต้องเล่าเรื่องเดิมซ้ำๆ-ข้าพเจ้าได้ทำหนังสือร้องไปที่สำนักนายกฯ สคบ ธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อปี48 เดือน เมษายน-เมื่อวันที่ 8 กพ 49 10.00 น ธนาคารแห่งประเทศไทย นัด2 สองฝ่ายเข้าเจรจา ข้าพเจ้าเสนอที่จะขาย 2 แปลงดังกล่าวข้างต้นชำระมากกว่า ที่เสนอไปแล้วอีกเท่าตัว เพื่อปลดภาระหนี้ทั้งหมดคำถามคือ1. พวกเจ้าหน้าที่ธนาคารทำงานเพื่อตำแหน่งของตนแลกกับความทุกข์ยากของประชาชนลูกหนี้รายย่อยกับเจ้าหนี้รายใหญ่ และกลาง เขายอมรับตัดหนี้ที่30% 40%ของหนี้ที่เป็น มันไม่ยุติธรรมกับพวกเราลูกหนี้รายย่อยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ2. อาจารย์และพวกท่านสมาชิกมีข้อชี้แนะอย่างไร ใครมีประสบการณ์บ้าง ขอคำแนะนำครมีประสบการณ์ด้านนี้ ขอคำชี้แนะ ช่วยแนะนำด้วย จักเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
เพื่มเติม:
-ข้าพเจ้ามีหนี้10.5ล้าน -ฟ้องและตัดสินปี40-ล่าสุดณธนาคารแห่งประเทศไทยวันที่8 2 49 10.00 ได้เสนอว่าจักชำระหนี้ที่ว่าสองเท่าจากที่เสนอไว้ก่อนในปี48 คือ 2 ล้านจากทรัพย์สองแปลงดังกล่าว เพื่อปลดภาระหนี้ทั้งหมด-เจ้าหน้าที่เปลี่ยน4คนเฉพาะปี48จริงๆ 3คนแรกก็ดูจะอำนวยความสะดวกตามที่ท่านว่า แต่คนสุดท้ายเพิ่งมารับ 1 สัปดาห์ก่อนจะเจรจาที่แบงค์ชาติ ดูเหมือนเขาจะบีบลูกหนี้ให้ตายเพื่อหวังผลทางตำแหน่ง เป็นหญิง 37ปี โสด
-ข้าพเจ้ามีลูก3คนยังเล็กอยู่เรียนขั้นมัธยมหมด ภาระเยอะ ดิ้นรนทุกวิถีทาง -ท่านว่าจะมีทางออกอย่างไร (ข้าพเจ้ามองว่าทางธนาคารได้เงินจาก2แปลงดังกล่าวชำระหนี้ และข้าพเจ้ามีเงินเหลือทำทุนเล็กน้อย ให้ลูกเรียนหนังสือ และปลดภาระหนี้ทั้งหมด)