รถจักรยานยนต์ชนกัน
มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ คือว่านายทัดเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานต์ยนต์โดยมีนายแซดเป็นผู้ซ้อนโดยทั้งสองได้ดื่มสุราพื้นเมืองมาคนละ 3 กรึ๊บ ยังไม่เมา (รถนายทัดมีทะเบียน พรบ. ครบ พร้อมใบขับขี่) ขับขี่ในซอยหมู่บ้าน ขับขี่ทางด้านขาออก (หันขวาเข้าหาเส้นกลางถนน) แล้วมีนายจันทร์เป็นผู้ขี่รถจยย.อีกคันหนึ่ง(คู่กรณีเป็นรถไม่มีทะเบียน ไม่มี พรบ. ไม่มีใบขับขี่ เป็นรถเก่าใช้ในทำงานในสวน) ขี่สวนเข้ามาในหมู่บ้านโดยรถคนนี้ไม่มีสัญญาณไฟเลยทุกชนิด แล้วเกิดการเฉี่ยวชนกันที่กึ่งกลางเส้นแบ่งถนน (เป็นทางโค้งฝั่งนายทัดจะเลี้ยวขวา) เป็นเหตุให้ทั้งนายทัด นายแซด นายจันทร์ได้รับบาดเจ็บ มีพลเมืองดีนำคนเจ็บส่ง รพ.ทั้งหมด โดยก่อนนำคนเจ็บส่ง รพ. นั้นพลเมืองดีได้ยกรถที่เกิดเหตุทั้งหมดไปไว้ฝั่งนายจันทร์ เนื่องจากฝั่งนายทัดเป็นขาออก มันกีดขวางการจราจร ถ้าไม่ย้ายจะไม่สามารถนำคนเจ็บส่ง รพ. ได้ เมื่อจนท.ตำรวจมาถึง จึงได้วาดรูปการชนกันไปในลักษณะที่มีการย้ายเรียบร้อยแล้ว
หลังจากนำคนเจ็บส่ง รพ. แล้ว นายทัดมีเลือดออกที่หู แล้วข้อมือขวาหักต้องเข้าเฝือก นายแซดได้รับการกระแทกเล็กน้อย นอน รพ. 3 วัน หมอให้กลับบ้านได้ ส่วนค่ารักษาฯ พรบ.รถนายทัดจ่ายทั้งหมด ส่วนนายจันทร์ได้รับบาดเจ็บที่หน้าผากเย็บ 9 เข็ม นิ้วชี้ข้างซ้ายแตกต้องผ่าเอาเหล็กดาม แล้วก็เส้นเอ็นตรงคอเคล็ด นอน รพ. 3 วัน หมอก็ให้กลับบ้านเหมือนกัน แต่นายจันทร์ต้องจ่ายค่ารักษาฯ เอง หลังจากคนเจ็บอาการดีขึ้น ก็ไปสถานีตำรวจเพื่อตกลงกัน แต่ตกลงกันไม่ได้ ตำรวจบอกว่าฝ่ายนายจันทร์ยังเจ็บหนักกว่านายทัด ต้องรอใบรับรองแพทย์จาก รพ.ก่อน และก็รอผลการทำแผนของตำรวจวิทยาการ จึงมีคำถามดังนี้
1. ดูจากสภาพรถที่ชนกันแล้ว รถของนายทัด(ฮอนด้าเวฟ) เฟลมทั้งสองข้างแตก หัก ตะกร้าหน้ารถถูกชนจนมาติดกับไฟหน้า โดยยุบจากมุมซ้ายของตะกร้าเข้ามา แล้วตัวถังรถจยย. ตรงที่ตัวถังน้ำมันฝั่งขวามีรอยถูกขูดด้วยของแข็งเป็นทางยาว จนสีถลอก แล้วนายทัดก็ได้รับบาดเจ็บข้อมือขวาหัก แล้วเลือดออกที่หูข้างขวา
2. ส่วนรถนายจันทร์นั้น ไม่มีไฟหน้า เป็นรถรุ่นเก่ามีเฉพาะแฮนด์ ได้รับความเสียหายคือ แฮนด์รถหักครึ่งจากเบ้าล้อหน้า แล้วคลัชมือด้านซ้ายมือหักครึ่ง ส่วนแฮนด์และเบรคขวาอยู่ในสภาพปกติ จากการสอบถามกันเองตอนอยู่ รพ. นายจันทร์นั้นบอกว่าขับรถกำลังจะกลับบ้าน แล้วจำได้ว่าจะเลี้ยวขวา แล้วก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย (ดื่มสุรากับเบียร์ก่อนขับรถ แต่บอกกับตำรวจว่าไม่ได้ดื่ม) แต่พอให้การกับตำรวจนายจันทร์บอกว่านายทัดขับรถกินเลนเข้ามาชนตนเอง จึงขอถามว่าเราจะแย้งกับจนท.ตร. ได้ไหมว่าที่เขาบาดเจ็บด้านซ้าย นั้นตรงกับที่เขาบอกเราว่าเขาตัดหน้าเรา ถ้าเราไปชนเขาจริงทำไมเขาไม่ได้รับบาดเจ็บทางด้านขวา แล้วรถนายทัดก็ได้รับความเสียหายทางด้านขวาเป็นส่วนมาก เป็นไปได้หรือไม่ที่ถ้าเราพุ่งเข้าไปชนเขา ทำไมเขาไม่ได้รับบาดเจ็บด้านขวาเลย ซึ่งมันขัดแย้งกับที่เขาให้การว่านายทัดไปชนเขา
3. ตำรวจบอกว่านายจันทร์นั้นเจ็บหนักกว่านายทัด ดังนั้นนายทัดจะต่อสู้คดี จะนำพยานที่เห็นเหตุการณ์ว่านายจันทร์นั้นขี่รถเข้ามาหานายทัดได้หรือไม่ เพราะแผนที่ ตร.วาดมานั้น มีการเคลื่อนย้ายหลักฐานแล้ว ตำรวจจึงดูเข้าข้างนายจันทร์ |