ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    015936 ทุกข์ใจมากๆ ถูกฟ้องทั้งๆที่ไม่ได้เป็นหนี้กับเขาเลยเล็ก25 มกราคม 2549

    คำถาม
    ทุกข์ใจมากๆ ถูกฟ้องทั้งๆที่ไม่ได้เป็นหนี้กับเขาเลย

    กราบเรียนท่านอาจารย์มีชัย ที่เคารพ

    เรื่องมีอยู่ว่า  ดิฉันเป็นลูกสาวคนที่ 2  แต่คุณพ่อและคุณแม่ให้ไปอยู่กับป้าที่สิงคโปร์ตั้งแต่อายุ  10 ขวบ  นานๆจะกลับเมืองไทย  ปัจจุบันดิฉันอายุ 45 ปี  คุณพ่อตาย  คุณแม่มีที่ดินอยู่ 1 แปลง  บนที่ดินมีบ้านปลูกอยู่ 1 หลัง  โดยบ้านดังกล่าวมีชื่อของดิฉันเป็นเจ้าบ้านตามทะเบียนบ้าน  ต่อมาคุณแม่ตายเมื่อปี 2543   ก่อนตายคุณแม่จึงยกเฉพาะที่ดินดังกล่าวให้แก่พี่สาวของดิฉัน  เนื่องจากดูแลท่านตอนเจ็บป่วย  และพี่สาวดิฉันมีความจำเป็นต้องกู้ยืมสหกรณ์ฯแห่งหนึ่งโดยตกลงนำที่ดินไปจำนองพร้อมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน( การจำนองดิฉันไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน )  ต่อมาพี่สาวดิฉันไม่มีความสามารถชำระหนี้จำนองได้  พี่สาวจึงทำการโอนที่ดินดังกล่าวพร้อมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินชำระหนี้จำนองแก่สหกรณ์ฯ        ต่อมาประมาณปี 2544 สหกรณ์ฯได้ไปทำจำนองที่ดินแปลงนี้พร้อมสิ่งปลูกสร้างแก่สถาบันการเงินอีกแห่งหนึ่งขึ้นมาต่างหากจนถึงปัจจุบัน 

    ขอกราบเรียนถามว่า..........

    1 . ดิฉันกลับมาอยู่เมืองไทยตั้งแต่ปี 2545  โดยที่กลับเข้ามาอยู่ในบ้านดังกล่าว  และสหกรณ์เคยมีหนังสือแจ้งให้ดิฉันออกจากบ้านเมื่อปี 2545  แต่ก็ไม่ได้ทำการฟ้องร้องอะไรแก่ดิฉัน  จนกระทั่งบัดนี้(  11 มกราคม 2549 ) สหกรณ์ได้ยื่นฟ้องขับไล่ดิฉันออกจากบ้านหลังที่ดิฉันมีชื่อเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้านเช่นนี้  สหกรณ์ทำได้หรือไม่คะ ???

    2 . ทำไมการฟ้องคดีขับไล่มันมีอายุความเท่าไหร่คะ  เพราะสหกรณ์ทราบเรื่องดิฉันกลับมาอยู่บ้านนี้ตั้งแต่ปี  2545  แล้วไม่ได้ฟ้องร้องดิฉัน  มันยังไม่ขาดอายุความหรือคะ ???

    3 . การที่บ้านนี้มีชื่อดิฉันเป็นเจ้าบ้านตั้งนานมากแล้ว  ไม่ถือว่าดิฉันครอบครองจนเป็นเจ้าของหรือเปล่าคะ  มีอายุการครอบครองเท่าไหร่คะ ???

    4 . สหกรณ์ได้นำที่ดินแปลงนี้ไปทำการจำนองแก่ผู้อื่น ( สถาบันการเงินแห่งหนึ่ง )แล้ว  เช่นนี้จะถือว่าสหกรณ์ไม่มีสิทธิในการฟ้องคดีดิฉันหรือไม่คะ ???

    5 . ดิฉันเครียดมากๆค่ะ  เพิ่งทราบหมายศาลเมื่อ 5 วันนี้เอง  เงินที่พี่สาวดิฉันไปจำนองต่างๆดิฉันไม่เคยเห็นแม้แต่บาทเดียวเลย

    กราบขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ  ที่ท่านอาจารย์ให้ความกรุณาแก่เพื่อนมนุษย์ผู้ยากไร้ และมีปัญหาทุกข์ใจ  ทุกวันนี้จะหาคนที่มีใจเมตตาทำประโยชน์แก่สังคมน้อยมากค่ะ  ขอให้ท่านอาจารย์มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงยิ่งๆนะคะ  รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

                                                                                   ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

    คำตอบ

    เรียน คุณเล็ก

         1. ทำได้ซี เพราะที่ดินและบ้านเป็นของสหกรณ์ เขาจะให้อยู่หรือให้ออกก็ย่อมทำได้ การมีชื่อเป็นเจ้าบ้าน ไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นเจ้าของบ้านเสมอ อาจใช่หรือไม่ใช่ก็ได้ เช่น คนที่เช่าบ้านเขาอยู่ ในเวลาที่ย้ายทะเบียนบ้านมา ก็ใส่ชื่อตัวเองเป็นเจ้าบ้านได้

         2. ตราบใดที่เรายังอยู่ในบ้านของคนอื่น เจ้าของเขาย่อมขับไล่ได้เสมอ

         3. ถ้าคุณได้ครอบครองโดยสงบโดยเปิดเผยโดยเจตนาเป็นเจ้าของ ติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี ก็อาจได้กรรมสิทธิ์ในเพราะการครอบครองปรปักษ์ได้ แต่นี่สหกรณ์เขาเพิ่งได้เป็นเจ้าของเมื่อหลังปี 2543 การครอบครองของคุณจึงยังไม่ถึง 10 ปี ที่จะยกขึ้นต่อสู้กับสหกรณ์ได้

        4. ถึงเขาจะนำไปจำนองกับคนอื่น เขาก็ยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินและบ้านนั้นอยู่ดีแหละ

        

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    25 มกราคม 2549