เรียน  ท่านอาจารย์ มีชัย ที่เคารพ

       ก่อนอื่น หนูขอ เท้าความก่อนน่ะค่ะ  เนื่องจากที่บ้าน (คุณพ่อ-คุณแม่) เปิดกิจการรับจัดโต๊ะจีนนอกสถานที่ มาเป็นเวลา 20 กว่าปีแล้ว  มีลูกจ้างมากมาย  และมีพนักงานขาย เข้ามาใหม่อยู่เรื่อยๆ  และเมื่อปีที่แล้ว  พนักงานขายของทางร้าน3 คน ร่วมกันโกงเงินของบริษัทไป ร่วม 3 แสนกว่าบาท (1 คนทำงานมา 10 กว่าปีแล้ว ,คนนึงพึ่งเข้ามาทำได้ประมาณ 1 ปี ส่วนอีกคนเคยมาทำเมื่อ4 ปีก่อน และถูกเชิญให้ออกเนื่องจากโกงเงินบริษัทไปและได้เข้ามาทำใหม่)  

โดยคนที่ทำงานมา10 กว่าปี ได้มีการตกลงจะรับใช้ผ่อนให้ เป็นเวลา 1 ปี โดยร่างเป็นหนังสือไว้ และให้มีผู้ค้ำประกันที่เป็นข้าราชการ หากไม่ยอมผ่อนคืนตามกำหนด  ผู้ที่ค้ำจะต้องชดใช้ให้โดยหักจากเงินเดือน  แต่ณ ตอนนี้ยังไม่มีการผ่อนใช้เลย    และคนที่ทำงานมา 1 ปี ก็เช่นเดียวกัน  แต่ณ ปัจจุบัน ได้ผ่อนชำระเกือบหมดแล้ว

ส่วนพนักงานอีกคน ที่ได้เข้ามาทำงานรอบ 2 นั้น  พ่อกับแม่เห็นว่า เค้ามายอมรับสารภาพ และขอทำงานต่อ และจะชดใช้โดยหักจากค่า คอมมิชชั่นรายเดือน แต่ ณ ปัจจุบันก็ไม่เคยชดใช้อะไรเลย

ซึ่งหนูทราบดีว่า มันน่าจะเป็นความผิดพลาดอย่างนึง ที่พ่อแม่ได้ตัดสินใจดังนี้  แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก  จนเมื่อช่วงปีใหม่  เป็นช่วงที่งานเยอะมาก  และเราจับได้ว่าพนักงานคนนี้ได้โกงเงินบริษัทไปอีก  จากการเช็คจากลูกค้าแล้ว รวมแล้ว ร่วม แสนกว่าบาท  หนทางในการโกงที่พบจากการกระทำของเค้า  คือ

1. ลูกค้ามามัดจำ ค่าจัดโต๊ะจีน งวดที่ 2  แต่ไม่ยอมส่งเงินให้บริษัท

2. ส่งเงินให้บริษัท ไม่ตรงตามที่ลูกค้าชำระ เช่น ลูกค้าจ่าย 16000 แต่ส่งให้บริษัท 10000

3. คิดเงินกับลูกค้า แต่แจ้งทางบริษัทว่าเป็นการแถม เช่น รับค่าจัดซุ้มดอกไม้จากลูกค้ามา  แต่แจ้งทางร้านว่า  ลูกค้าขอให้แถม หรือ คิดลูกค้ามา 4000  แต่ส่งให้ทางบริษัท แค่ 2000 บาท

โดยปกติ บริษัทจะมีเอกสารที่ทำกับลูกค้าอยู่ 2 ใบ คือ  1. ใบปะหน้า โดยจะระบุถึงรายการและรายละเอียดที่ต้องจัดให้ลูกค้า    2. ใบสัญญาว่าจ้าง ซึ่งจะระบุไว้ว่า ผู้ว่าจ้าง (ลูกค้า) ได้กระทำการว่าจ้าง ให้ผู้รับจ้าง (ชื่อพนักงานขายที่ติดต่อ) จัดงานให้ (ตามรายละเอียดที่กำหนด..) ........  โดยมียอดเงินรวม..............บาทได้มัดจำ ไว้.....................บาท   และก็มีที่ลงลายเซ็นต์ของทั้ง 2ฝ่าย

โดยในสัญญาว่าจ้าง จะมีการลงเงินมัดจำไว้เพียงครั้งเดียว หากลูกค้าต้องการมัดจำเพิ่มครั้งที่ 2 จะมีใบเสร็จออกให้ (เป็นใบเสร็จที่มีหัวของบริษัท และมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษี)  

แต่ในกรณีของพนักงานที่โกงไป เมื่อลูกค้ามามัดจำเพิ่ม ก็ได้ออกใบเสร็จที่มีหัว เป็นชื่อร้านเหมือนกัน แต่ไม่มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ซึ่งเป็นบิลเงินสด ที่ได้เลิกใช้ไปแล้ว เพราะเมื่อก่อนนำมาใช้เมื่อเคยเปิดร้านอาหาร แต่ตอนนี้ได้ปิดร้านไปแล้ว  และเปิดเป็นจัดนอกสถานที่อย่างเดียว

และบางกรณีพนักงานขายคนนี้ ก็ได้ตกลงกับลูกค้า โดยใช้แค่ใบปะหน้า ซึ่งใบปะหน้าเป็นใบพิมพ์คอมพิวเตอร์ ธรรมดา   และใบเสร็จที่ได้ยกเลิกดังกล่าวมาออก ให้ลูกค้า

ขอถามเลยน่ะค่ะ  พ่อหนู จะเอาผิดอะไรเค้าได้ไหมค่ะ  เพราะจากที่ไปแจ้งความมา เราเอาผิดอะไรเค้าไม่ได้เลยตามกฎหมาย และต้องจัดงานให้ลูกค้าตามปกติ  เนื่องจากใบที่พนักงานคนนี้ออกให้ลูกค้า  หัวใบเป็นชื่อร้านเรา (บริษัทเรา)

ซึ่งทำให้หนูงง ไม่เข้าใจเลย   สงสารพ่อมาก   แต่ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของเราเอง  เราไม่มีสัญญาว่าจ้างที่ทำระหว่าง ทางบริษัทกับพนักงานขายเลย

ตัวพ่อกับแม่เอง ก็จบแค่ปวช. ไม่มีความรู้ทางด้านกฏหมาย และหนูเองก็พึ่งจะอายุ 17 ปี  อยากช่วยที่บ้านมาก  เพราะตอนนี้พ่อ โดนหลายทาง (ส่วนอีกเรื่องนึง  หนูจะถามทีหลังน่ะค่ะ)

*** ที่อยากให้อาจารย์กรุณา ***

1. ที่บ้านหนูพอมีลู่ทางเอาผิดกับเค้าได้ไหมค่ะ ตอนนี้ไม่ค่อยหวังเงินคืนแล้ว แต่อยากให้เค้าได้รับโทษ    (ช่วยพ่อหนูด้วยน่ะค่ะ)  โดยหนูมีหลักฐานการรับเงินของเค้าจากลูกค้า แต่เป็นใบเสร็จที่หัวเป็นชื่อบริษัทเรา

2. สัญญาว่าจ้างที่ทำระหว่างบริษัทกับพนักงานขาย ควรจะร่างยังไงดีค่ะ  หนูอยากทำไว้ให้พ่อใช้กับพนักงานคนต่อไป และพนักงานที่ยังอยู่

เรียน ลูกที่อยากช่วยพ่อ

        1. อาจเอาผิดฐานยักยอก หรือฉ้อโกงได้ ควรปรึกษาทนายความดู

        2. ต้องไปปรึกษากับทนายความให้เขาร่างให้น่าจะดีกว่า เพราะเขาจได้ซักไซร้ลักษณะของกิจการ ได้โดยละเอียด

        วิชากฎหมาย ก็เหมือนกับวิชาทำกับข้าวนั่นแหละ คือ คนทั่วๆ ไปก็สามารถทำได้ หรือพอรู้งู ๆ ปลา ๆ แต่เมื่อถึงคราวที่จะเอาจริง ก็ต้องไปหาคนที่เขามีอาชีพโดยตรง จึงจะไม่เกิดความเสียหายในภายหลังได้  เหตุของบิดาคุณเกิดจากความไว้วางใจ และความสงสารเป็นเกณฑ์ จึงมีเรื่องเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า