ขอความรู้จากอาจารย์
กราบเรียนท่านอาจารย์ที่เคารพ
เมื่อวันที่6-8 มกราคม 2549 สมาคมพนักงานส่วนตำบลได้จัดให้มีการประชุมสัมมนาเรื่อง "ทิศทางการกระจายอำนาจและการบริหารส่วนบุคคลส่วนท้องถิ่น ภายใต้นโยบายของรัฐบาล" ที่จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้เข้าประชุมประมาณ 1,000 คน ในการประชุมครั้งนี้ มีการหยิบยกเอาร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ...... มาให้ผู้เข้าประชุมได้แสดงความคิดเห็นด้วย ผู้เข้าประชุมหลายท่านได้แสดงความคิดเห็นและข้อท้วงติงหลายประการด้วยกัน ครั้งแรกเข้าใจว่า ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ คงอยู่ในขั้นแรกของขบวนการแต่วิทยากรซึ่งท่านเป็นรองอธิบดีได้บอกต่อที่ประชุมว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ได้ผ่าน ค.ร.ม.แล้วและอยู่ในขั้นพิจารณาตรวจร่างของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ท่านอาจารย์เป็นประธานคณะกรรมการ ผมจึงขอสท้อนความคิดเห็นในที่ประชุมมาให้อาจารย์ได้ทราบและพิจารณา ดังนี้
1. ที่ประชุมหลายท่านสงสัยว่าเมื่อขบวนการเข้าไปถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ทำไมผู้จัดจึงนำเข้ามาให้ที่ประชุมแสดงความคิดเห็น ซึ่งรังแต่ให้เกิดความไม่เข้าใจกันยิ่งขึ้น ทำไม ผู้ร่างไม่นำมาทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติให้เข้าใจตรงกันเสียก่อน
2. ผู้แสดงความคิดเห็นในที่ประชุมเห็นว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เป็น ร่าง พ.ร.บ.ที่รวบอำนาจเข้าสู่ส่วนกลางมากกว่ากระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
3. ผู้แสดงความคิดเห็นในที่ประชุมเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 284และ 288
4. สภาท้องถิ่น ปัจจุบันนี้เหมือนเหมือนไม้ประดับอยู่แล้ว เมื่อมีร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เข้ามายิ่งเป็นสภาที่ไร้ค่ายิ่งขึ้น ปัจจุบันในก.อบต.จังหวัดมีตัวแทนของประธานสภา ฯ 3 คนร่วมเป็น ก.อบต.จังหวัด แต่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ถูกตัดออกไป วิทยากรท่านบอกว่าเพื่อแยกสายงาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว สมาชิกสภาคือผู้ที่ได้รับเลืกมาจากประชาชนในพื้นที่ มาทำหน้าที่ควบคุมฝ่ายบริหารและดูแลนโยบายแต่กลับไม่มีหน้าที่ใด ๆ ใน พ.ร.บ.ฉบับนี้เลย (ยกเว้นองค์การ ฯ ขนาดใหญ่ที่ ก.ถ.ท่านจะพิจารณา) ขอให้คงเดิมได้หรือไม่ครับ
5. มีหนทางใดหรือไม่ครับ ที่จะนำร่างนี้มาทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนระหว่างผู้ร่างกับผู้ปฏิบัติ
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและบารมีของพระสยามเทวาธิราช จงปกปักรักษาให้ท่านอาจารย์มีพลานามัยที่สมบูรณ์สุขภาพแข็งแรงตลอดไป
ด้วยความเคารพ |