ร้านอินเตอร์เน็ตโดนจับค่ะ
กลุ้มใจมากค่ะ..เมื่อวันที่ 8 มีผู้หญิงเข้ามาที่ร้านแล้วบอกว่าเป็นตำรวจจะมาตรวจเด็ก..ไม่มีอะไรถ้าเจอก็จะตักเตือนเฉยๆ เพราะเป็นการมาตรวจครั้งแรก ปกติที่ร้านจะไม่ค่อยมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย จะมีแต่เด็กโต..ดิฉันก็ให้ตรวจตามสบาย..หลังจากตรวจก็พบเด็ก 1 คน อายุ 15 ปีแต่งชุดลูกเสือ..ผู้หญิงคนดังกล่าวก็บอกว่ามีนะวันหลังอย่าให้มีอีก..แต่วันนี้ขอลงบันทึกไว้..ไม่มีอะไรนะไม่ต้องกลัวแล้วก็เรียกเพื่อนเข้ามาถ่ายรูป..หลังจากนั้นก็ถามดิฉันว่าจะยอมรับไหม..ดิฉันก็ถามเขาดีๆ ว่ามีผลอย่างไร...เค้าก็บอกว่าไม่มีอะไรก็แค่ยอมรับเซ็นต์ชื่อแล้วก็จบ..ก่อนเซ็นต์ดิฉันก็อ่านใบที่ให้เซ็นต์ มีเขียนข้อกล่าวหาว่า ชักจูง ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กต่ำกว่าอายุ 18 ปีเข้ามาใช้บริการ..ดิฉันอ่านแล้วสงสัยจึงถามและอธิบายว่าร้านเราใช้ระบบการขายคูปอง ถ้าลูกค้าซื้อคูปอง 1 ชม ก็สามารถนำคูปองมาใช้กี่ครั้งกี่วันก็ได้จนครบเวลาที่ซื้อไปโดยไม่ต้องมาแจ้งที่เคาร์เตอร์ก่อน ฉะนั้นดิฉันยอมรับว่าสัพเพร่าและจะระวังกว่านี้..เค้าก็บอกว่าเข้าใจไม่ต้องกลัว เค้าก็เห็นอยู่ว่ามีเด็กแค่คนเดียวมันอาจหลบเข้ามาตอนไหนก็ไม่รู้ ก็แค่เซ็นต์ชื่อแล้วก็ไปจ่ายค่าปรับที่ สน.แล้วก็จบ..ดิฉันถามว่าแน่นะ เค้าก็บอกว่าจริงๆ พวกเค้าจะโกหกทำไม หลังจากเซ็นต์ก็ตามไป สน.เพื่อจ่ายค่าปรับ แต่เรื่องราวกับใหญ่โต ดิฉันโดนลงบันทึกเป็นผู้ต้องหา ต้องส่งฟ้องศาลและต้องใช้เงินประกันตัว 30,000 บาท และจะถูกส่งฟ้องศาล หลังจากที่ สน.ลงบันทึก พวกที่เข้ามาจับก็ขอตัวกลับมีคนหนึ่งหันมาบอกดิฉันว่าขอโทษพี่นะที่โกหกพวกเขาเพิ่งย้ายมาต้องการผลงานก่อนออกไป..ทาง สน.บอกว่า คดีนี้มีโทษ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาท ตอนไปศาลที่สนามหลวงก็ให้ยอมรับจะได้รับการลดโทษครึ่งหนึ่ง ตอนนี้ดิฉันไม่อยากเชื่อใครแล้ว ดิฉันวิตกและกลัวมากหากต้องโดนจำคุก ดิฉันอยากทราบว่าดิฉันจะต้องทำอย่างไรคะ จะโดนปรับอย่างเดียวหรือต้องจำคุกด้วย พวกที่มาจับคือ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชนและสตรี ขอความกรุณาช่วยตอบด่วนค่ะ..ไม่รู้จะทำอย่างไรนอนไม่หลับมา 2 คืนแล้ว และมีข้อแนะนำอย่างไรบ้างคะ..ขอบคุณมากค่ะ
ไหน ๆ ก็ลงชื่อในเอกสารรับสารภาพไปแล้ว เมื่อไปศาลก็รับสารภาพผิดไปเถอะ เพราะส่วนใหญ่ศาลท่านก็ไม่ลงโทษจำคุก หรือถึงลงโทษจำคุกด้วยท่านก็มักจะให้รอลงอาญาไว้
ต่อไปก็ต้องจำไว้เป็นบทเรียนทีเดียวว่าเวลาจะเชื่ออะไรใครนั้น ต้องคิดให้ดีว่าเมื่อเชื่อแล้วจะเสียหายแก่ตัวเราหรือไม่ และจะฝืนต่อความเป็นจริงหรือไม่ จะเชื่อคนเพราะเขาเป็นเจ้าหน้าที่ หรือเพียงเพราะเขาน่าเชื่อถือ เห็นจะไม่ได้