เรียนท่านมีชัย
ได้อ่านคำตอบของท่านในหัวข้อครูกับอปท.แล้วก็ยังมีข้อสงสัยต่อไปอีกว่าในเมื่อตอนนี้กฎหมายผ่านสภาวาระ 3ไปเรียบร้อยแล้ว ครูทั้งหลายที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกยืนอยู่ข้างไหน ระหว่างยินดีปรีดาไปอยู่กับนายใหม่หรือดื้อแพ่งอยู่กับนายเก่าที่ไม่เคยดูแลครูเลย ทุกวันนี้ครูทั้งหลายได้แต่ปลอบตัวเองว่าเราขอยืนอยู่ข้างเด็กนักเรียนตั้งหน้าตั้งตาสอนไปจนกว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะคิดดี ทำดีเพื่อพัฒนาเด็กอย่างแท้จริง อยากรบกวนท่านได้ให้ข้อเสนอแนะกับครูทั่วไปว่าควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ และท่านเห็นว่ามีทางออกใดบ้างสำหรับการแก้ไขในเรื่องนี้ต่อไป ท่านคิดว่าเรื่องนี้ควรจบลงอย่างไร
ด้วยความนับถือเป็นอย่างยิ่ง
ครูรอบนอก
เรียน ครูรอบนอก
ในเมื่อในขณะนี้ร่างกฎหมายยังอยู่ในระหว่างถูกส่งไปยังวุฒิสภา เรียกว่ายังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ การต่อสู้ยังสามารถทำได้ จะสู้อย่างไรก็สู้กันไปได้ตามวิถีทางอันสงบ แต่ในการต่อสู้นั้นต้องนึกถึงหน้าที่ของความเป็นครู และนึกถึงแบบอย่างที่ดีที่จะเป็นตัวอย่างแก่เด็กและเยาวชนด้วย อย่าเอาแต่อารมณ์ ต้องมีสติกำกับในทุกขั้นตอน ตามพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวเมื่อวันที่ ๔ นวาคมที่ผ่านมา เพราะในวิถีชีวิตของครูนั้น มีการดิ้นรนต่อสู้ใหญ่ ๆ อยู่หลายครั้บ เมื่อการต่อสู้ผ่านพ้นไปแล้ว คนที่นำการต่อสู้ก็มักจะจบลงด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งในเวทีการเมืองเวทีใดเวทีหนึ่ง ถ้าหันไปมองดูในเวทีการเมืองปัจจุบันทั้งในระดับชาติ ระดับท้องถิ่น และแม้แต่ระดับองค์กรของครูที่อยู่รอบ ๆ ตัว ก็จะเห็นได้อยู่ตำตา และที่มักจะทำให้ครูน้ำตาตก ก็มักจะมาจากคนเหล่านั้นแหละ จึงยากที่จะเดาใจใครได้ว่า ในการนำการต่อสู้นั้นเป็นการนำเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของวงการศึกษา หรือเพราะเป็นบันไดสำหรับไต่ในทางการเมือง ที่พูดมานี้มิได้หมายความว่าการต่อสู้เพื่อให้ได้มาในสิ่งซึ่งถูกต้องจะเป็นของไม่ดี เพียงแต่ขอให้ไตร่ตรอง และใช้ความระมัดระวัง คิดด้วยเหตุด้วยผล ก่อนที่จะคล้อยตามใครง่าย ๆ
การปฏิเสธไม่เสวนากับท้องถิ่นโดยสิ้นเชิงนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะแม้จะสัมฤทธิ์ผลในระยะหนึ่ง แต่ในที่สุดวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็ว ก็ต้องไปร่วมมือกันไม่วิธีใดวิธีหนึ่งหรือทางใดทางหนึ่ง ทางที่ดีจึงต้องใช้โอกาสนี้ร่วมกันคิดว่าวิธีใด ระบบการศึกษาพื้นฐานและบุคลากรครูในระบบ จะได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสม เมื่อครั้งอยู่กับกระทรวงมหาดไทยในนามขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสมัยก่อน ก็เป็นลูกไหล่ของมหาดไทย เมื่อดิ้นรนออกจากมหาดไทยย้ายมาอยู่กระทรวงศึกษาธิการ ก็มาตกเป็นลูกไล่ของครูด้วยกันเองที่ไต่เต้าขึ้นไปเป็นผู้บริหาร ตอนนี้จะถูกโยนกลับไปอยู่ท้องถิ่น ถ้าจะต้องตกไปเป็นลูกไล่เขาอีก ก็จะน่าสมเพชยิ่งนัก ไหน ๆ ก็ได้ต่อสู้มาจนมีทีท่าว่าจะต่อรองอะไร ๆ ได้บ้างแล้ว ทำไมไม่ลองคิดหามาตรการอะไรที่จะเป็นหลักประกันความมีศักดิ์มีศรีอย่างมีเหตุมีผลของความเป็น "ครู" กันดูบ้าง ครูก็มีอยู่กันทั่วประเทศ ถ้ารู้จักสามัคคีและแบ่งงานกันทำอย่างเป็นระบบเหมือนอย่างที่สอบเด็ก ๆ บางทีก็อาจจะสู้ได้ผล เช่น พวกที่ถนัดทางพูดและเดิน ก็ปล่อยให้ออกไปพูดและเดินอยู่ข้างนอก ไม่จำเป็นต้องตามกันไปจนหมด พวกที่ถนัดทางศึกษาค้นคว้า ก็ลองศึกษาค้นคว้าหาลู่ทางวิธีการและมาตรการเพื่อสร้างรูปแบบที่ดีเป็นที่ยอมรับกันได้ พวกที่ถนัดในการเจรจา ก็นำสิ่งที่ศึกษาได้ไปเจรจากับฝ่ายการเมืองดู เป็นต้น อันคนเรานั้น จะชนะหรือแพ้ ก็อยู่กันที่ "หัว" แต่ถ้าเอาหัวไปชนกับเขาเฉย ๆ หัวก็คงแตกเปล่าโดยไม่ได้อะไรนอกจากแผลกลับมา ต้องเอาสิ่งที่อยู่ข้างใน "หัว" ไปสู้กับเขา จึงจะชนะอย่างที่เรียกว่า "ชนะใจคนดู" สมกับที่คนเขาคอยเอาใจช่วย