นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร
จากข้อ 1 (เรื่องนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร)เป็นคำตอบของคุณโปโล ที่ว่าปัญหามาจากสมาชิกไม่ยอมจ่ายส่วนกลาง ซึ่งน่าจะเป็นคำตอบที่น่าจะเป็นจริง แต่จากการที่ผมเคยเป็นกรรมการหมู่บ้าน3สมัย และเป็นประธานหมู่บ้านจัดสรร5สมัย(ก่อน พรบ.2543) เก็บเงินตามค่าใช้จ่ายจริงเดือนละ 140.- บาท/หลัง(96หลัง) เป็นค่าไฟทาง ขยะ ยาม ฯลฯที่เกี่ยวกับส่วนรวม เหลือเงินประมานเดือนละ5-700.-บาทรอกท่อได้จากการจัดงานปีใหม่เหลือเงินจากผู้มาร่วมทำบุญ
การจัดเก็บได้ทุกหลัง จากการเดินเก็บพร้อมส่งบัญชีถึงมือทุกเดือน จึงขอสรุปว่า
สมาชิกทุกคนยินดีจ่ายด้วยความเต็มใจ หากให้ความกระจ่างชัดเจนมีหลักฐาน ไม่โมเมหรือไม่บอกความจริงอย่างใดอย่างหนึ่ง การใช้จ่ายเงินนอกเหนือจากรายจ่ายประจำ ต้องให้สมาชิกเสมอภาพพร้อมเพียง ยึดถือและเคารพในมติสมาชิกกรรมการมีหน้าที่ทำตามมติเท่านั้น และอยู่ในขอบเขตสาธารณูปโภคเรื่องอื่นไม่เกี่ยว
ปัญหาที่เกิดการจัดเก็บไม่ได้
1 การบ้าอำนาจของคนที่เข้ามาเป็นกรรมการหมู่บ้าน ใช้กริยาวาจาบังคับข่มขู่ นึกอะไรไม่ออกก็ตั้งกฎออกข้อบังคับตามอารมณ์เหมือนคนไร้การศึกษา ไม่เคารพความเป็นคนของผู้อึ่น ทั้งที่เป็นสามัญชนคนธรรมดามิได้มีอำนาจใดๆตามกฎหมาย
2 การใช้จ่ายเงินตามอำเพอใจ ชอบที่จะเก็บเงินให้มากๆให้เกินๆเข้าไว้อ้างว่าเผี่ออนาคต ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นหากมีความจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วนก็แจ้งขอต่อสมาชิกได้ถ้าสมาชิกมีมติเห็นชอบให้ก็ดี ถ้าไม่เห็นชอบก็ไม่น่าเป็นไร การมีเงินอยู่ในมือกรรมการนอกจากที่จ่ายประจำเท่าที่เคยเห็นมีแต่ผลเสีย และเมื่อเสียหายแล้วสมาชิกมักไม่รู้เรื่องหรือไม่กล้าพูดมาก จนมองดูเหมือนเป้นที่ชื่นชอบของสมาชิก จนกลายเป็นประเพณี หนักเนานไปกลายเป็นฝีแตก
ความคิดเห็นได้จากสมัยนั้นไม่มีความรู้เรื่องหมู่บ้านจึงหาข้อมูลตามหมู่บ้านต่างๆรวมกับการศึกษาทางรัฐศาสตร์เรี่องประชาธิประไตรโดยตรง จึงขอสรุปว่าสมาชิกหมู่บ้านจัดสรรทุกแห่งพร้อมที่จะร่วมจ่ายค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและการจัดการสาธารณูปโภคทั้งนั้น แต่ต้องถูกต้องโปร่งใสชัดเจน ให้เกียรติแก่สมาชิกในการมีสิทธิ์รับรู้ข้อมูล ไม่ทำเหมือนเขาเป็นตัวอะไร แต่เน่นแหละที่จะช่วยหมู่บ้าเราในเรื่องค่าใช้จ่าย
ทุกครั้งที่ได้ยินว่าสมาชิกหมู่บ้านเลวร้ายไม่ยอมจ่าย มักมองเห็นคนที่ไม่มีความคิด เพียงแต่ใช้ปากพูดให้ผู้อื่นเสียหาย ทั้งที่น่าจะห้นกลับไปมองกรรมการหมู่บ้านว่ามีลักษณะอย่างไร บางทีต้นเรื่องอาจเกิดจากกรรมการหมู่บ้านนั่นเหละ
ปัจจุบันมีพรบ.จัดสรรที่ดิน 2543 ก็เป็นที่ชอบอกชอบใจของคนที่เป็นกรรมการที่มีความพอใจกับอำนาจนิยม โมเมเหมาว่ากฎหมายให้กรรมการมีอำนาจกระทำหารใดๆก็ได้ยิ่งชาวบ้านที่ไม่ได้อ่านหรือไม่เข้าใจกฎหมายนี้ กรรมการได้ทีหลอกจูงสมาชิกไปไหนๆให้เป็นที่สนุกสนาน ตั้งกฎตั้งข้อบังคับเอง กำหนดอัตราการจัดเก็บเอง หลอกให้สมาชิกมาประชุมโดยไม่ให้รายระเอียกวาระการประชุมให้ลงชื่อร่วมประชุมเสร็จก็เหมาะลายเซ็นว่าสมาชิกลงมติเป็นเอกฉันท์ ไม่ต้องส่งข้อบังคับจดทะเบียนต่อกรมที่ดิน(ตามกฎกระทรวง 7) เท่านี้ก็ใช้บังคับได้สบาย เงินที่ตั้งให้เก็บมาเกินก็ใช้จ่ายกันสบาย ใช้เพื่อเลี้องรับรองกันในหมู่กรรมการ ใช้เงินช่วยงานทำบุญงานศพ ฯลฯซึ่งไม่อยู่ในกรอบ พรบ.ที่ดิน2543 ใครจะรู้และเข้าใจเพราะโดนล้างสมอง เงินที่จัดเก็บมาก็เข้าบัญชีกรรมการแต่เขียนชื่อบัญชีว่าเป็นบัญชีนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร (เป็นเพราะเปิดบัญชีนิติบุคคลฯไม่ได้เพราะทะเบียนนิติบุคคลที่จดไว้ไม่มีชื่อกรรมการ) ถึงเวลาก็ต้องเสียภาษีเงินได้อีกทั้งที่กฎหมายยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร2544 เหลวเเหลก สอบถามกรมที่ดินทั้งคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง คณะอนุกรรมการจัดสรรที่ดินกรุงเทพ ได้ความว่าเขาไม่หน้าที่เข้าไปจัดการ จะต้องฟ้องศาลเอาเอง อะไรอะไรก็ต้องฟ้องศาลเอง
ไม่น่าเชี่อว่านิติบุคคลโดยกรรมการหมู่บ้านจัดสรรสามารถออกข้อบังคับที่ขัดต่อกฎหมาย ขัดต่อรัฐธรรมนูณได้
อนึ่งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรนี้เมื่อตอนยื่นจดทั้งหมด 5 ครั้งถูกตีกลับ เพราะเขียนข้อบังคับให้กรรมการมีอำนาจตามมาตรา 48 ซึ่งเป็นของนิติบุคคล ยื่นครั้งที่ 5 อยู่ในระหว่างประกาศ 30 วัน เมื่อประกาศไป 27 วัน มีผู้โทรศัพท์ไปถามว่าจะให้ผ่านหรือกรมที่ดินไม่ได้ดูหรือว่า ในข้อบังคับที่กรรมการยี่นขอจดมีข้อความเขียนต่อท้ายอำนาจนิติบุคคลว่า "ในกรณีเร่งด่วนให้กรรมการมีอำนาจในการออกกฎเกณ กำหนดอัตราการจัดเก็บได้" กรมที่ดินจึงไปพิจารณาเเละแจ้งให้กรรมการทราบว่าข้อบังคับที่ยื่นขอจดผิดทั้งหมด 8 ข้อ วันรุ่งขึ้นกรรมการมารับเรื่องกลับ หลังจากนั้น 14 วันกรมที่ดินจดทะเบียนให้เรียบร้อย โดยไม่มีการประชุมเละลงมติด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมด(นับจำนวนแปลง)ตามมาตรา 45 พรบ.ที่ดิน2543 เท่ากับว่าทะเบียนนิติบุคคลฯที่จดมานี้คนยื่นเขียนเองจดเอง เเละตามกฎกระทรวงข้อ 7 (กฎกระทรวงว่าด้วยการจัดตั้งนิติบุคคลฯ) ขณะประกาศ 30 วัน เมื่อมีผู้คัดค้าน(ไม่ได้บอกว่าต้องเป็นลายลักษณ์อักษร)ต้องส่งเรื่องให้คระกรรมการจัดสรรที่ดินกรุงเทพ ถ้ามิชอบด้วยกฎหมายจริงให้ยกเลิกการจด
ขอถามว่านิติบุคคลหมุ่บ้านจัดสรรนี้กระทำการถูกต้องชอบด้วยกฎหมายหรือไม่อย่างไร |