เรียน หมอใต้ผู้ร่วมชะตากรรม
ในอดีตหรือแม้แต่ในปัจจุบันหมอเป็นคนประเภทที่มันสมองเป็นเลิศกว่าใครหมด วิชาที่เรียนก็เป็นวิชาที่คนทั่วไปไม่สามารถจะรู้หรือเข้าใจได้ เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยคนจึงฝากชีวิตไว้กับหมอโดยไม่มีเงื่อนไขใด จะให้ทำอะไร อย่างไร ก็ทำ เพราะด้วยความเชื่อใจว่าหมอจะรู้ดีที่สุด ในแวดวงของหมอเองก็ถูกสอนกันมาให้เกิดความรู้สึก superior กว่าคนทั่วไป (จะเห็นได้ว่าเวลาหมอพูดกับคนไข้ จะไม่ใช้สรรพนามเหมือนคนทั่วไป ว่า "ผม" หรือ "ฉัน" แต่จะเรียกตัวเองว่า "หมอ" บางคน ก็เรียกตัวเองว่า "คุณหมอ" ) เมื่อหมอถูกวางไว้ในที่สูง ความคาดหวังของคนทั่วไปที่มีต่อหมอจึงสูงตามไปด้วย หมอจึงถูกสอนสั่งให้เข้มงวดกับความรับผิดชอบที่มีต่อชีวิตมนุษย์ด้วยคุณธรรมและจรรยาบรรณ ความคิดในเชิงการค้าหรือธุรกิจจึงไม่มีอยู่ในแวดวงของหมอ แต่เมื่อโลกพัฒนาขึ้น ความรู้ของคนก็พัฒนาตามไปด้วย ในขณะเดียวกันหมอส่วนหนึ่งก็มุ่งในทางธุรกิจมากขึ้น (แต่ก่อนเมื่อหมอรักษาคนไข้ ก็ไม่เคยคิดค่ารักษาอย่างแยกแยะเหมือนดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะมีรายการค่าวิชาชีพ ค่ารักษา ค่าอะไรต่ออะไรเต็มไปหมด แม้แต่ค่าวิชาชีพของพยาบาล) ความคาดหวังที่คนไข้มีต่อหมอ จึงค่อย ๆ แปรเปลี่ยนจากความ "ไว้วางใจอย่างสิ้นเชิง" เป็นความไว้วางใจในเชิงต่างตอบแทน ด้วยความรู้ที่พัฒนาขึ้นของคนทั่วไป จึงเริ่มรู้ว่าบางครั้งบางคราวหมอก็มิได้ใส่ใจเท่าที่ควร มีการหลงลืม หรือประมาทเลินเล่อ หรือบางครั้งมิได้ใช้วิชาความรู้อย่างรอบคอบทัดเทียมกับความไว้วางใจที่คนไข้มอบให้ การฟ้องร้องจึงเริ่มเกิดมีถี่ขึ้น แต่แม้กระนั้นถ้าสังเกตจากคำตัดสินของศาลก็จะเห็นว่า ศาลยังไม่ถึงขนาดที่จะโยนความรับผิดชอบให้แก่หมออย่างง่าย ๆ คดีที่คนไข้ฟ้องหมอจึงมีน้อยรายที่จะชนะ ในคดีที่ชนะจริง ๆ ก็มักจะปรากฏว่าคนไข้สามารถพิสูจน์ได้อย่างเห็นได้ชัดว่า ความผิดพลาดนั้นเกิดจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หรือขาดมาตรฐาน
แต่ไม่ว่าโลกหรือความนึกคิดของผู้คนจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร หมอก็ยังได้รับการยอมรับนับถือและได้รับการยกย่องจากสังคมอยู่ตามสมควร เหตุทึ่เป็นเช่นนี้ก็ไม่ใช่เพราะอื่นใด หากแต่เป็นเพราะด้วยจรรยาบรรณที่กำหนดให้หมอต้องรับรักษาคนไข้ทุกคนนั่นเอง
ความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้ กับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับตำรวจ หรือครูกับศิษย์ นั้นต่างกัน จึงไม่อาจเทียบเคียงกันได้
การที่จรรยาบรรณของหมอในระยะหลังกำหนดให้หมอต้องบอกรายละเอียดของอาการของคนไข้และวิธีการรักษาให้คนไข้เข้าใจ ซึ่งอาจจะดูเป็นภาระให้แก่หมออยู่บ้างนั้น แต่การกำหนดเช่นนั้นก็ย่อมเป็นประโยชน์ต่อหมอ เพราะเมื่อการตัดสินใจเป็นของคนไข้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยใดขึ้น หมอก็จะได้ไม่ต้องรับผิดชอบ ข้อสำคัญ หมอต้องบอกสาระสำคัญให้ครบถ้วนเพื่อคนไข้จะได้ใช้ประกอบการตัดสินใจได้
สำหรับกฎหมายในความคิดเห็นของหมอนั้น นับว่าเป็นความคิดเห็นที่ทันสมัย เพราะแนวโน้มก็กำลังจะมุ่งไปสู่ทิศทางนั้น เพียงแต่ยังไม่แพร่กระจายเท่าที่ควร คนส่วนใหญ่ยังชอบมีกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายที่ให้สิทธิและอำนาจแก่ตัวหรือแก่กลุ่มของตัว แต่กฎหมายนั้นเป็นของที่มีสองด้าน กล่าวคือเมื่อสร้างสิทธิหรืออำนาจให้แก่ใครแล้ว คนอื่นนอกจากนั้นก็จะถูกบังคับให้ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจนั้นกันทั่วหน้า ประเทศที่เจริญแล้วเขาจึงระมัดระวังการมีกฎหมายอย่างมาก ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ เขาก็จะไม่ตรากฎหมายออกมาใช้บังคับ
ดีใจที่ยังได้ข่าวจากหมอ ขอให้ส่งข่าวมาเป็นระยะ ๆ จะได้อุ่นใจว่าคุณหมอยังปลอดภัยดีอยู่ เพราะแม้จะเชื่อว่าความดีที่คุณหมอเสียสละดูแลผู้คนในเขตอันตรายนั้นจะช่วยคุ้มครองคุณหมอให้ปลอดภัย แต่การได้ข่าวบ้างก็จะทำให้อุ่นใจยิ่งขึ้น
มีชัย ฤชุพันธุ์ 1 พฤศจิกายน 2548 |