ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    015037 ศาลรธน. กับผู้ว่าสตง.คนอยากรู้30 กันยายน 2548

    คำถาม
    ศาลรธน. กับผู้ว่าสตง.
    เรียนท่านอาจารย์มีชัย                      ผมสงสัย กรณีที่นสพ.ฉบับหนึ่งเสนอความคิดเห็นของอาจารย์ว่าศาสรธน.ไม่มีอำนาจรับเรื่องคุณหญิงจารุวรรณไว้วินิจฉัยตั้งแต่แรกและคำวินิจฉัยของศาลรธน.ต่อกรณีของคุณหญิงจารุวรรณเป็นการอ้างรธน.แบบตีขลุม ผมอ่านแล้วสับสนมากครับอยากฟังชัดๆอยากปากอาจารย์อีกครั้งครับ                                                                                                
    คำตอบ

    เรียน คนอยากรู้

                มีคนมาเล่าให้ฟังว่า หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับลงวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๔๘ ลงบทบรรณาธิการเป็นทำนองว่า ผมมีความเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับเรื่องคุณหญิงจารุวรรณไว้วินิจฉัยตั้งแต่แรกเป็นการตีขลุม อะไรทำนองนั้น  ซึ่งไม่เป็นความจริง ไทยรัฐอาจจะสับสนระหว่างความเห็นของผมกับความเห็นของคนอื่น เพราะผมไม่เคยมีความเห็นทำนองนั้น  ตรงกันข้ามผมได้เคยตอบไว้ในคำถามที่ 014981 มีความว่า

              "ขณะนี้มีผู้เสนอเป็นแนวทางว่าให้ถือเสมือนหนึ่งว่าไมมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หรืออีกนัยหนึ่งคือให้เพิกเฉยต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยคนที่เสนอเช่นนั้นเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกินอำนาจ ข้อเสนอแนะดังกล่าวน่าขนพองสยองเกล้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะเท่ากับทำให้บ้านเมืองขาดขื่อแปที่จะยึดถือกันอีกต่อไป เพราะเท่ากับว่าเมื่อศาลวินิจฉัยอย่างไรแล้ว หากไม่เป็นที่ถูกใจ ก็สามารถเพิกเฉยเสียได้ไม่ต้องปฏิบัติตาม ระบบนิติรัฐก็คงพังคลืนอย่างสิ้นเชิง เพราะต้องเข้าใจว่า "ความถูกใจ" นั้น บางครั้งก็เกิดจากอารมณ์ เมื่อทำได้เสียครั้งหนึ่งแล้ว ต่อไปก็จะเป็นอย่างให้ปฏิบัติตามต่อไปได้ และขึ้นชื่อว่าอารมณ์แล้วย่อมผันแปรไปได้เสมอ  ลองคิดดูว่าถ้าวันหนึ่งศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลฎีกาแผนกคดีการเมืองวินิจฉัยว่านักการเมืองใดต้องพ้นจากตำแหน่งหรือกระทำผิด แล้วบังเอิญนักการเมืองนั้นเป็นที่ชื่นชมของคนจำนวนมาก คนเหล่านั้นเกิดเห็นว่าที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัะยหรือศาลฎีกาแผนกคดีการเมืองพิพากษานั้นไม่ถูกต้อง แล้วทุกฝ่ายก็เลยเพิกเฉยต่อคำวินิจฉัยหรือคำพิพากษานั้นเสีย อะไรจะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองและประชาชนทั่วไป และอะไรจะเกิดขึ้นกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๗ ที่ว่า "สิทธิและเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญนี้รับรองไว้โดยชัดแจ้ง โดยปริญาย หรือโดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ย่อมได้รับความคุ้มครองและผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล และองค์กรอื่นของรัฐโดยตรงในการตรากฎหมาย การใช้บังคับกฎหมาย และการตีความกฎหมายทั้งปวง"  และที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖๘ ที่ว่า "คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นเด็ดขาด มีผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ"  ฯลฯ

     

     

              


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    30 กันยายน 2548