ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    014981 ปัญหาโลกแตกกรณีสตง.คนตามข่าว25 กันยายน 2548

    คำถาม
    ปัญหาโลกแตกกรณีสตง.

    เรียน อ. มีชัย ฤชุพันธุ์

    อยากเรียนถามอ. มีชัยกรณีของผู้ว่าสตง. ซึ่งเป็นปัญหาคาราคาคาซังอยู่ ณ เวลานี้ ว่า 1. ในความเห็นของอ. มองว่าขณะนี้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีที่ว่ากระบวนการสรรหาผู้ว่าสตง. ไม่ถูกต้องยังมีผลบังคับอยู่หรือไม่ 2. ถ้าคำวินิจฉัยยังมีผลบังคับอยู่ ถือว่าคุณหญิงจารุวรรณพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าสตง.หรือยังเพราะคำวินิจฉัยไม่ได้เขียนตรงนี้ไว้ชัดเจน หรือต้องให้ส.ว. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความใหม่ (ตามที่อ. มีชัยได้ให้ความเห็นไปเมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา) 3. ถ้าคำวินิจฉัยยังมีผลอยู่ งานที่คุณหญิงทำตลอดเวลาที่ผ่านมา (หลังมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ) เป็นโมฆะหรือไม่

     

    สุดท้ายอยากขอความชัดเจนจากอ. อีกครั้งว่าในความเห็นของอ. ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้คืออะไร ระหว่าง 1. ให้คตง. สรรหาผู้ว่าสตง. คนใหม่ (ซึ่งจะเข้าอีหรอบเดิมอีก) 2. ให้คุณหญิงจารุวรรณเป็นผู้ว่าสตง. ต่อไป หรือ 3. ทางออกอื่นๆ ถ้ามี

    ขอบคุณมากค่ะ

    คนตามข่าว

    คำตอบ

    เรียน คนตามข่าว

               1. ยังมีผลอยู่ และจะมีผลตลอดไปสำหรับเรื่องนี้

               2. ตรงนี้แหละที่เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ไม่สะเด็ดน้ำ แม้ว่าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และประธานศาลรัฐธรรมนูญจะได้เคยชี้แจงแล้วว่าผลของคำวินิจฉัยดังกล่าวทำให้คุณหญิงจารุวรรณท่านพ้นไป แต่คนที่เกี่ยวข้องก็ยังถกเถียงกันอยู่นั่นเอง  เมื่อขณะนี้โอกาสเปิดช่องให้ดำเนินการใหม่ได้ จึงเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเสียให้สิ้นสงสัย

               3.  ดูเหมือนว่าหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว คุณหญิงท่านไม่ได้ทำอะไรอีก ปัญหาจึงไม่เกิดขึ้น

               4. ทางออกก็เป็นอย่างที่ได้ตอบไปแล้วในเว็บนี้เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๔๘ หรือที่ตอบไว้ในข้อ ๒ ข้างต้น

               ขณะนี้มีผู้เสนอเป็นแนวทางว่าให้ถือเสมือนหนึ่งว่าไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หรืออีกนัยหนึ่งคือให้เพิกเฉยต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยคนที่เสนอเช่นนั้นเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกินอำนาจ   ข้อเสนอแนะดังกล่าวน่าขนพองสยองเกล้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะเท่ากับทำให้บ้านเมืองขาดขื่อแปที่จะยึดถือกันอีกต่อไป  เพราะเท่ากับว่าเมื่อศาลวินิจฉัยอย่างไรแล้ว หากไม่เป็นที่ถูกใจ ก็สามารถเพิกเฉยเสียได้ไม่ต้องปฏิบัติตาม ระบบนิติรัฐก็คงพังคลืนอย่างสิ้นเชิง เพราะต้องเข้าใจว่าความถูกใจนั้น บางครั้งก็เกิดจากอารมณ์ เมื่อทำได้เสียครั้งหนึ่งแล้วต่อไปก็จะเป็นตัวอย่างให้ปฏิบัติตามต่อไปได้  และขึ้นชื่อว่าอารมณ์แล้วย่อมผันแปรไปได้เสมอ ลองคิดดูว่าถ้าวันหนึ่งศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลฎีกาแผนกคดีการเมืองวินิจฉัยว่านักการเมืองใดต้องพ้นจากตำแหน่งหรือกระทำผิด แล้วบังเอิญนักการเมืองนั้นเป็นที่ชื่นชมของคนจำนวนมาก คนเหล่านั้นเกิดเห็นว่าที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือศาลฎีกาแผนกคดีการเมืองพิพากษานั้นไม่ถูกต้อง แล้วทุกฝ่ายก็เลยเพิกเฉยต่อคำวินิจฉัยหรือคำพิพากษานั้นเสีย อะไรจะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองและประชาชนทั่วไป

    และอะไรจะเกิดขึ้นกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๗ ที่ว่า "สิทธิและเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญนี้รับรองไว้โดยชัดแจ้ง โดยปริยาย หรือโดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ย่อมได้รับความคุ้มครองและผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล และองค์กรอื่นของรัฐโดยตรงในการตรากฎหมาย  การใช้บังคับกฎหมาย และการตีความกฎหมายทั้งปวง"  และที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖๘ ที่ว่า "คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ"

             ในเรื่องของอารมณ์คนนั้นมีตัวอย่างให้เห็นครั้งหนึ่งแล้วในอดีต   ครั้งหนึ่งมีปัญหาว่าประธาน กกต.ท่านหนึ่งได้รับการสรรหามาโดยวุฒิสภาเป็นการชอบหรือไม่ มีการส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย  ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากระบวนการสรรหานั้นเป็นการไม่ชอบ  และโดยที่ประธาน กกต.ท่านนั้นไม่มีอะไรประทับใจผู้คนและนักวิชาการนัก  ผู้คนที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจึงขมีขมันสรรหากันใหม่ วุฒิสภาก็คัดเลือกใหม่ จนได้ประธาน กกต.คนใหม่ โดยไม่มีใครติดใจอะไร ยังเคราะห์ดีที่ในครั้งนั้นประธาน กกต.ที่ถูกวินิจฉัยว่าได้รับการสรรหามาโดยไม่ชอบ ท่านยอมรับและตัดสินใจเข้าสมัครรับการสรรหาใหม่ เรื่องจึงยุติได้ด้วยดีโดยไม่ต้องระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

               ทางออกที่ดีจึงไม่ใช่การละเลยต่อการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หากอยู่ที่เมื่อมีข้อสงสัยก็ต้องย้อนกลับไปหาศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเสียให้สิ้นสงสัย  


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    25 กันยายน 2548