เรียน อาจารย์มีชัยที่เคารพ

 จากความเดิมที่เคยถามอาจารย์  "เรื่องของแฟนเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน เค้าไปกู้ร่วมกับพี่สาวแฟนเก่าซื้อบ้าน เพราะตอนนั้นพี่คนนั้นเงินเดือนไม่พอกู้ แต่บ้านหลังนี้พี่เค้าตกลงว่าจะอยู่กับพ่อแม่ของเค้า แล้วจะผ่อนเอง พี่คนนี้ผ่อนได้แค่สองสามเดือนก็ไม่สามารถผ่อนต่อได้  พอดีกับช่วงนั้นแฟนหนูเลิกกับแฟนเก่าพอดี เรื่องบ้านเค้าเลยไม่รู้ จนกระทั่งผ่านมาได้เกือบปี ธนาคารมีหนังสือแจ้งว่าจะยึด ตอนนั้นแฟนไม่รู้เรื่องกฎหมายอะไรเลย ประกอบกับไม่ได้ติดต่อกับทางนั้นอีก เลยจ้างทนายให้ไปจัดการให้ ไม่รู้เกิดอะไร สุดท้ายบ้านโดนยึดโดยไม่มีการเจรจาประนอมหนี้เลย  จนเวลาผ่านมา 10 ปี (ซึ่งก็มีหนังสือแจ้งมาเป็นระยะ ๆ ให้ไปดูตอนที่เค้าจะจำหน่ายบ้าน แต่ต่างฝ่ายไม่ไปดูแลเลย แต่ส่วนใหญ่แฟนหนูไม่ทราบเรื่องหรอกค่ะ เพราะจดหมายไปบ้านที่ต่างจังหวัดที่มีแต่คนแก่อยู่ จดหมายตกหล่นบ่อยมาก) ล่าสุด ธนาคารแจ้งว่าขายบ้านได้แล้วในราคา 300,000 บาท (จากราคาเดิมตอนซื้อ 850,000 บาท) แล้วแจ้งว่าเมื่อหักเงินที่ขายบ้านได้แล้ว ยังเหลือหนี้ที่ต้องชำระอีก 1,900,000 บาท  ตกใจมากค่ะ อะไรจะมากมายขนาดนั้น พอดูรายละเอียด ปรากฎว่าเป็นดอกเบี้ย ค่าดำเนินการต่าง ๆ ที่ผ่านทั้ง 10 ปี นั้นแหละ  ตอนนี้แฟนหนูเค้าให้ทนายไปติดต่อธนาคารอยู่ เนื่องจากทราบมาว่า หากมีการฟ้องล้มละลายจะเป็นเรื่องยาวไกล หนูกับแฟนกำลังอยู่ในช่วงสร้างตัว  แล้วอีกอย่างเมื่อไม่นานมานี้ ได้ยินพี่ที่ทำงานบอกว่า มีกฎหมาย หรืออะไรไม่ทราบ เกี่ยวกับว่า กรณีมีหนี้กับธนาคาร เช่น บ้าน แล้วถ้าหาก ธนาคารดำเนินการขายบ้านได้แล้ว หนี้สินส่วนที่เหลืออยู่ให้ถือเป็นโมฆะ คือเราไม่ต้องไปใช้หนี้อีก  หนูอยากทราบว่ามีจริงหรือไม่ค่ะ แล้วถ้าไม่มี กรณีอย่างแฟนหนูจะจบอย่างไรค่ะ  คู่กรณีก็รับทราบเรื่องที่หนูจ้างทนายแล้ว เค้าบอกว่าจะยอมช่วยจ่ายครึ่งหนึ่ง แต่ของให้ทางหนูไปเจรจากับธนาคารให้ลดหย่อนหนี้ซักหน่อย เค้าก็ว่าเป็นห่วงแต่แฟนหนูแหละ เพราะเป็นอาจารย์ ทำงานมีหลักแหล่ง แต่เค้าไม่มีสมบัติอะไรเลย งานก็ไม่มี   แต่เท่าที่ทราบเค้าหุ้นกับน้องสาวเปิดร้านเสริมสวย และมีร้านอาหารด้วย"  ซึ่งอาจารย์ได้ตอบมาว่าไม่เคยได้ยินข้อกฎหมายดังกล่าวนั้น

    หนูของคำแนะนำด้วยคะว่า ควรทำอย่างไรต่อไป ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนาย (ซึ่งเราเองควรคอยติดตามเรื่องโดยตลอดรึไม่ค่ะ) หรือควรทำอย่างไรดีคะ อยากให้เรื่องจบโดยเร็ว

                               ขอบคุณท่านอาจารย์มาก ๆ ค่ะ

                                       ปลาย

     ควรติดตามผลของการดำเนินคดีจากทนายความเป็นระยะ ๆ