คุณแม่เป็นหนี้เสียธ.กรุงไทย ใช้ที่ดินคุณพ่อเป็นหลักประกัน ตอนนี้อยู่ระหว่างขายทอดตลาด เดิมเป็นหนี้ 1.3 ล้าน ธนาคารแจ้งว่าตอนนี้เป็นหนี้ทั้งหมด 3.2 ล้านบาท แต่สนง.บังคับคดีประเมิณที่ 1.7 ล้าน ไปติดต่อซื้อกับธนาคาร เข้าจะเอา 2.3 ล้าน ผมมีเงินไม่พอควรทำอย่างไรดี

1. เราค้านได้กี่ครั้ง  แล้วธนาคารค้านได้กี่ครั้ง แต่ละครั้งราคาลดไปเท่าไร

2. ธนาคารมีบริษัทที่มาชื้อแข่งเราควรทำอย่างไรดี

3. ผมควรไปติดต่อซื้อช่วงไหนถึงจะถูกที่สุด

4. ถ้าชื้อที่บังคับคดีแล้ว  หนี้ส่วนที่เหลือหากตามไม่ได้จำนวเท่าไรธนาคารจึงฟ้องล้มละลาย  และมีอายุความกี่ปี

5.เราไปขอกู้กับธนาคารอื่น มาชื้อตอนขายทอดตลาด ธนาคารที่เราไปขอสินเชื่อเขาจะทราบไหมว่าเป็นที่ดินซื้อจากการขายทอดตลาด  เขาจะมองไหมว่าพ่อแม่เรายังเป็นหนี้เสียแล้วเขาจะกล้าให้เรายืมอีกหรือไม่ เราต้องบอกธนาคารว่าชื้อจากธ.กรุงไทยหรือสนง.บังคับคดี

6.ทำไมธนาคารจะต้องให้บริษัทไปชื้อแข่งกับเจ้าของบ้าน

7.พอจะมีหน่วยงานไหนช่วยเจรจากับธนาคารขายถูกลงบ้างครับ

ขอแสดงความนับถือ

ศิริพงษ์

     1. การค้าน มิใช่ค้านเพื่อให้ราคาลดลง หากแต่เพื่อให้ราคาสูงขึ้น เพราะถ้าราคาลดลงเท่าไร ลูกหนี้ก็จะยิ่งเสียหายมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากหลังจากขายทรัพย์สินนำเงินไปชำระหนี้แล้ว ถ้าขายในราคาถูก หนี้ก็จะคงเหลือมากขึ้น

      2. กาามีคนมาซื้อแข่งย่อมเป็นการดี ราคาจะได้สูงขึ้น

      3. ช่วงที่ไม่มีใครแข่งขันด้วย

      4. ถ้ามีหนี้ตั้งแต่หนึ่งล้านขึ้นไปก็สามารถฟ้องล้มละลายได้

      5. ธนาคารเขาก็ต้องทราบอยู่ดี เพราะฉะนั้นควรบอกเขาตรง ๆ

      6. เพื่อประโยชน์ของลูกหนี้ที่จะลดหนี้ลงได้มาก และประโยชน์ของธนาคารที่จะได้รับชำระหนี้มากขึ้น

      7. คงต้องเจรจาเองกระมัง