ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    014898 รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันฤทธิพร 15 กันยายน 2548

    คำถาม
    รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน

    กราบเรียน ท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธ์

                  ผมมีความกังวลในสถานการณ์ปัจจุบันที่ค่อนข้างจะสับสน(ทั้งภาคของการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ) และมีข้อสงสัยว่าทำไม เมื่อมีเรื่องมีเหตุการณ์ เช่นกรณีการจะนำรัฐวิสาหกิจ เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เหตุการณ์กรณีการแต่งตั้งผู้ว่าตรวจเงินแผ่นดิน กรณีการนำเอาพระราชอำนาจออกมาวิจารณ์สู่สาธารณชน ฯลฯ ซึ่งประชาชนอย่างผมสับสนและไม่เข้าใจ

                  ประหนึ่งในความคิดและความจำที่ครั้งเคยได้ยินและได้รับทราบจากท่านอาจารย์ตั้งแต่ตอนที่ท่านได้มีส่วนในการวินิจฉัยร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่ท่านอาจารย์ฯได้กล่าวไว้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถ้าหากประกาศออกไปแล้ว จะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับนองเลือด ความรู้อย่างผมก็ไม่ได้เป็นนักกฏหมาย เรียนมาทางช่าง แต่ก็อ่านรัฐธรรมนูญแล้วเกิดมีความรู้สึกติดขัดในหลายๆอย่าง เช่น ประเทศไทยเป็นปึกแผ่นมีเอกราชจะแยกเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดมิได้ฯ รัฐวิสาหกิจประหนึ่งว่าต้องถูกขายทอดตลาดอย่างนั้นหรือ? ความเป็นมนุษย์ต้องไม่ถูกจำกัดด้วยเชื้อชาติ ศาสนา และในหลายๆมาตรา ก็ไม่เคยกล่าวอ้างถึงพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์เลย มีเพียงแต่ทรงลงพระปรมาภิไธย ไม่มีแม้แต่พระราชวินิจฉัย และแม้แต่กระทั่งอำนาจทางนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์พระองค์ท่านก็ไม่มีพระราชอำนาจใดเลย ประหนึ่งว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ลดพระราชอำนาจลงไปอย่างนั้นด้วยหรือไม่

                    ด้วยความด้อยความรู้ของผม ก็ต้องพึ่งอาจารย์ฯเป็นผู้ตอบสั้นๆก็ได้ครับ เพราะปัจจุบันผมกลัวคนที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ จะชักจูงและชักนำพาประเทศเสียหายได้ครับ

                    สำนึกในพระคุณความรู้ของท่านอาจารย์ครับ

     

    ฤทธิพร  สว่างศรี

    คำตอบ

    เรียน คุณยุทธิพร

            ก่อนที่จะตอบคำถามของคุณ เห็นจะต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องเสียก่อน ที่คุณบอกว่า ผมเคยกล่าวว่ารัฐธรรมนูญนี้ถ้าประกาศใช้แล้วจะเกิดการนองเลือดนั้น เห็นจะเข้าใจผิดหรือมิฉะนั้นก็สับสน เพราะผมไม่เคยกล่าวเช่นนั้น  จริงอยู่เมื่อ สสร.ร่างรัฐธรรมนูญนี้เสร็จก่อนที่จะนำเสนอสภา วุฒิสภาในขณะนั้นได้เคยจัดสัมมนาและแสดงความคิดเห็นในมาตราต่าง ๆ ของรัฐธรรมนูญ ว่าจะก่อให้เกิดปัญหาอย่างไรบ้าง เพื่อว่า สสร.จะได้นำกลับไปพิจารณาทบทวน จะแก้ไขอย่างไรก็จะได้แก้ไขเสีย แต่ สสร.ก็มิได้แก้ไข บางคนถึงกับออกมายืนยันว่าจะไม่ยอมแก้ไขแม้แต่คำเดียว และมีการออกมาเดินขบวนกลางถนน นำโดยคุณอานันท์ ปัญยารชุน ประธานคณะกรรมการยกร่างในขณะนั้น เพื่อสร้างกระแสให้สภาต้องรับร่างนั้นโดยไม่มีเงื่อนไข  ถ้าสภาไม่รับก็คงเกิดเรื่อง (แต่จะถึงนองเลือดหรือไม่ไม่อาจทราบได้ เพียงแต่มีเสียงขู่ว่าถ้าสภาไม่รับก็ไม่รับรองความปลอดภัย) วุฒิสภาพิจารณาปัญหาเฉพาะหน้าในขณะนั้นแล้วเห็นสอดคล้องต้องกันว่า รัฐธรรมนูญนี้มีปัญหาแน่ แต่ถ้าไม่รับร่างที่ สสร.เสนอมา ปัญหาก็จะเกิดในทันที และอาจจะรุนแรงได้ แต่ถ้ารับแล้วปัญหาก็จะไปเกิดในวันหน้า ซึ่งยังพอมีเวลาที่จะแก้ไขปัญหานั้นได้ หรืออย่างน้อยผู้คนที่สนับสนุนกันอยู่ในขณะนั้นก็จะได้รับบทเรียน และรับผิดหรือรับเคราะห์กรรมร่วมกันอันจะโทษใครไม่ได้  ซึ่งทุกวันนี้เราทุกคนก็อยู่ในภาวะเช่นว่านั้น

    ในส่วนที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญก็มีเรื่องที่จะเรียนเพื่อทราบเพียงเท่านั้น

      สำหรับในส่วนที่เกี่ยวกับคำวิพากษ์ของผมนั้น ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ หากแต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ ในขณะที่มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว วุฒิสภาได้พยายามแก้ไขร่างบางส่วนเพื่อรักษาประโยชน์ส่วนรวมไว้ แต่รัฐบาลในขณะนั้นไม่ยินยอม ตามข่าวหนังสือพิมพ์ในขณะนั้นระบุว่า ผมกล่าวว่าแล้วคงจะเกิดมิคสัญญี ซึ่งมีความหมายว่าจะเกิด "กลียุค" แต่อันที่จริงผมไม่ได้พูดเช่นนั้น ผมได้พูดว่า แล้วคงจะเกิด "วิสัญญี" โดยผมมุ่งหมายจะให้หมายความว่า แล้วในที่สุดประชาชนก็จะอยู่ในฐานะเสมือนถูกยาชาหรือยาสลบ กล่าวคือถ้าเป็นไปตามร่างกฎหมายดังกล่าว หากมีรัฐบาลที่ไม่รอบคอบ (โดยไม่ต้องนึกถึงว่าหากมี"เถยจิต") ประชาชนก็จะอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถจะทำอะไรได้ ถ้าเป็นกรณียาชา ก็จะรู้สึกตัวแต่ได้แต่กรอกตาดูเขาทำกันไป แต่ถ้าเป็นยาสลบ ก็จะไม่รู้เรื่อง เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกที ก็ปรากฏว่าเขาทำกันไปเสร็จหมดแล้ว ผมไม่เคยชี้แจงความหมายของคำพูดดังกล่าวมาก่อน แต่เมื่อมาถึงบัดนี้ รู้สึกว่าที่คิด ๆ ไว้ ดูจะ "เข้าท่า" ดีอยู่ ก็เลยถือโอกาสชี้แจงให้ฟัง ในเรื่องที่เกี่ยวกับพระราชอำนาจนั้น รัฐธรรมนูญนี้จะชั่วดีอย่างไร ก็มิได้มีการลดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ลง เพียงแต่ผู้คนบางหมู่บางเหล่าได้เปลี่ยนไป ความสำนึกในความจงรักภักดีของคนเหล่านั้นบางทีก็เลือน ๆ ไปตามกระแสโลกาภิวัฒน์ เพราะโดยรัฐธรรมนูญแล้วยังคงบัญญัติให้พระมหากษัตริย์ยังมีพระราชอำนาจอยู่เช่นเดิม การที่รัฐธรรมนูญบัญญัติทำนองว่า "พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง......ตามคำแนะนำของ......." นั้น มิได้หมายความว่าพระมหากษัตริย์จะต้องทรงลงพระปรมาภิไธยแต่เพียงอย่างเดียว ผู้แนะนำไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือองค์กรใดก็ตาม ก็มีเพียงหน้าที่ในการถวายคำแนะนำและต้องรับผิดชอบในคำแนะนำนั้นเท่านั้น ส่วนการที่จะทรงแต่งตั้งหรือไม่ ก็ยังคงเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์อยู่ไม่เสื่อมคลาย เพียงแต่ในทางปฏิบัติที่ผ่านมา เมื่อองค์กรที่มีหน้าที่ถวายคำแนะนำได้ถวายคำแนะนำแล้ว พระมหากษัตริย์จะไม่ทรงก้าวล่วงเข้าไปพิจารณาถึงดุลพินิจหรือกระบวนการในการดำเนินงานขององค์กรดังกล่าว ส่วนใหญ่จะทรงถือตามคำรับรองที่ถวายขึ้นไปว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายแล้ว เพื่อทรงหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองขึ้น เว้นแต่จะเป็นกรณีที่จะเสียหายแก่บ้านเมืองอย่างรุนแรงที่เห็นประจักษ์ ซึ่งนาน ๆ จึงจะมีครั้งหนึ่ง แต่แม้กระนั้นก็จะไม่ปรากฏข่าวคราวให้คนทั่วไปได้ทราบ เพราะจะทรงแนะนำ (ตามพระราชอำนาจในการให้คำแนะนำ) ให้ดำเนินการเสียให้ถูกต้องเป็นการภายใน ซึ่งคนที่เกี่ยวข้องที่มีความจงรักภักดี ก็จะรับใส่เกล้าและดำเนินการแก้ไขโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะเพื่อให้เกิดระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท คนทั่วไปไม่ทราบ จึงเข้าใจเอาว่าเมื่อกราบบังคมทูลเรื่องอะไรไปแล้ว ก็จะทรงลงพระปรมาภิไธยทุกเรื่องไป ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด คนที่เป็นข้าราชการหรืออยู่ในแวดวงราชการและมีความจงรักภักดีมานาน จะเข้าใจเรื่องนี้ได้ดี จึงจะเห็นได้ว่า ตำแหน่งใดก็ตามที่จะต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง คนที่เกี่ยวข้องจะไม่มีวันออกมาพูดอะไรเป็นการล้ำหน้าเป็นอันขาด ต่อเมื่อมีพระบรมราชโองการออกมาแล้ว จะแถลงอย่างไรก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่ถ้าคุณสังเกตให้ดี ๆ ในระยะหลัง ๆ มีผู้คนที่จะดำรงตำแหน่งหลายตำแหน่ง (ในระดับรัฐมนตรีก็ยังเคยมี) ที่จะต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้ง ยังไม่ทันที่จะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯลงมา ก็แสดงตนหรือแถลงนโยบายกันแล้ว ซึ่งเป็นการไม่บังควรเป็นอย่างยิ่ง แล้วเลยพาลให้เกิดความสับสนขึ้นอย่างที่คุณกำลังสับสนอยู่

    มีชัย ฤชุพันธุ์
    15 กันยายน 2548